ผู้นำฝ่ายค้านฯชี้นายกฯ ทำผิดซ้ำซากตลอด 8 ปี ด้านนายกฯ โต้หลายเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง ส่วนวิษณุ ชี้ บิ๊กตู่ นั่งนายกฯ เกิน 8 ปีไม่ได้

ผู้นำฝ่ายค้านฯชี้นายกฯ ทำผิดซ้ำซากตลอด 8 ปี ด้านนายกฯ โต้หลายเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง ส่วนวิษณุ ชี้ บิ๊กตู่ นั่งนายกฯ เกิน 8 ปีไม่ได้


ผู้นำฝ่ายค้านฯ นำร่องชำแหละความผิดพลาดนายกรัฐมนตรี ชี้ทำผิดซ้ำซากตลอด 8 ปี ด้านนายกฯ โต้ข้อกล่าวหาฝ่ายค้านชี้หลายเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง ส่วนวิษณุ ชี้ชัด บิ๊กตู่ นั่งนายกฯ เกิน 8 ปีไม่ได้แม้เว้นวรรค เหตุรธน.ระบุไว้ชัด

 

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวแถลงญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำผิดซ้ำซากเพื่อสืบทอดอำนาจ หวังสกัดกั้นคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ล่าสุดได้ออกแถลงการณ์ 3 แกนในการฟื้นประเทศซึ่งซ่อนความจริงที่จะขออยู่ในอำนาจต่อไปอีก 2 ปี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งแสวงหาอำนาจให้กับตัวเองและพวกพ้อง โดยอาศัยกลไกในรูปแบบต่างๆ หลังจากฝ่ายค้านเปิดโปงข้อมูลทุจริตต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เริ่มอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ โดยชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาด 6 ประการ ได้แก่ 1.ความผิดพลาดล้มเหลวด้านความเป็นผู้นำ เข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบธรรมจากการทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย, การใช้อำนาจขาดความชอบธรรมด้วยกฎหมายพิเศษตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นอำนาจเผด็จการที่รวบอำนาจทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการไว้แต่เพียงผู้เดียว, ไม่มีความรู้ความสามารถในการแก้วิกฤต เช่น แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผิดพลาด, ไม่มีความสามารถในการหารายได้เข้าประเทศ,

พล.อ.ประยุทธ์ ขาดวิสัยทัศน์ในการทำงาน โดยตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทั้งที่ไม่มีความรู้ความสามารถ ตั้งตัวเองเป็นผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เสพติดอำนาจ ใช้คนไม่ถูกกับงาน เช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตพลังงาน, เพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรม, การนำสุนทรพจน์ของผู้นำประเทศอื่นมากล่าวอ้างใช้เป็นของตัวเอง, ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์และเกียรติภูมิ กรณีปล่อยให้เครื่องบินรบรุกล้ำน่านฟ้า นี่คือภาวะผู้นำที่ล้มเหลวมีผลต่อความพินาศล้มเหลวต่อประเทศชาติ

2.ความผิดพลาดล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ทำให้สถานะของประเทศที่มีโอกาสเป็นผู้นำในภูมิภาคกลายเป็นประเทศที่ล้มป่วยเหมือนกลุ่ม 608 มีการกู้เงินเกือบเต็มเพดานทุกปี การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงทุกปี นักลงทุนย้ายฐานการผลิต เศรษฐกิจตกต่ำในอันดับต้นๆ ฟื้นตัวรั้งท้ายของโลก ผูกขาดเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่ จัดงบประมาณกระจุกตัว แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง คนจนเพิ่มมากสุดเป็นประวัติการณ์ คนว่างงานมากสุด หนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะสูงสุด ค่าครองชีพสูงสุด

3.ความผิดพลาดล้มเหลวทางสังคม สร้างความแตกแยก คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน เหลื่อมล้ำ การศึกษาตกต่ำ สังคมอุดมด้วยยาเสพติด กัญชาเสรี

4.ความผิดพลาดล้มเหลวด้านการศึกษา เด็กวัยเรียนมี IQ-EQ ต่ำกว่าค่ามาตรฐานสากล คะแนนโอเน็ตเฉลี่ยต่ำในทุกกลุ่มสาระ สถานศึกษาจำนวนมากตกเกณฑ์ประเมิน ดัชนีแข่งขันปี 62 – 65 ถดถอย

5.ความผิดพลาดล้มเหลวด้านสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขตกต่ำสุด บริหารคนไม่ถูกกับงาน รวมศูนย์อำนาจ รวบอำนาจกฎหมาย 40 ฉบับ

6.ความผิดพลาดล้มเหลวด้านการเมือง สร้างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ บิดเบือนกลไกทำลายระบบรัฐสภา ใช้งบประมาณจูงใจพรรคร่วมรัฐบาล มีพฤติการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ครอบงำชี้นำพรรคการเมืองและฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น กรณีสูตรคำนวณหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ด้วยวิธีหาร 100

“ผมหวังลึกๆ ว่าญัตติในสภาฯ จะสร้างปาฏิหาริย์ มั่นใจว่าจะมีรัฐมนตรีบางคนถูกสอย…เสียงในสภาไม่ชนะศรัทธาประชาชน ท่านไม่ตายในสภาแต่จะตายในสนามเลือกตั้งแน่นอน” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายกฯ โต้ข้อกล่าวหาฝ่ายค้านชี้หลายเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ค่อนข้างจะรุนแรง และข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในหลายเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าละทิ้งทิฐิ อคติ ผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ข้างหลัง และคิดถึงผลประโยชน์ของคนในชาติเป็นที่ตั้ง มีความรัก ความสามัคคีกัน ปัญหาทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้หมดด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน

และเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ ก็เหมือนทุกครั้งที่ตนและรัฐมนตรีได้ยินมาหลายครั้ง และพูดแต่เรื่องเดิมๆ แต่ก็พร้อมชี้แจงในทุกประเด็น

“นายกฯ ไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่ท่านบอกฉลาดที่สุด อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ได้รับการชื่มชมในสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการ และสามารถเปิดประเทศได้อย่างยั่งยืน ทำให้มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ระบบเศรษฐกิจก็ดีขึ้น ซึ่งการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีนี้ มีนักท่องเที่ยวแล้ว 2.2 ล้านคน และโครงการไทยเที่ยวไทย 6.8 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนในระบบ 4.3 แสนล้านบาท นี้คือผลงานรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ย้อนกลับไป 10 กว่าปี ตนไม่ใช่คนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือวิกฤตต่างๆ และขอให้ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ย้อนกลับไปดูความผิดและคนที่ติดคุก และยืนยันตนไม่ได้ต้องการให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็ต้องการพลิกโฉมประเทศไทย ทั้งการประกาศวิสัยทัศน์ของประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ผลักดันยุทธ์ศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมทั้งชี้แจงว่า ที่เคยบอกว่า 2 ปีไม่ใช่ต้องการขออยู่ในตำแหน่ง แต่หมายถึงนโยบายต่างๆ ที่วางไว้จะเริ่มเห็นผลออกมา

“ผมก็ทราบดี ว่าท่านชื่นชมคนที่ทำงานมาก่อน ดีกว่าผม ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือใช้ทหารมาทำงาน หากมีความจำเป็นก็ต้องดำเนินการ ส่วนกลไกในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบอยู่ในคณะกรรมการทั้งหมด และไปตรวจสอบดูว่ามีทหารอยู่กี่คนในคณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมา ซึ่ง สมช.มีหน้าที่ดูแลความมั่นคง และภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ทุกๆ เรื่อง และมีหน้าที่ในการกำหนดยุทธศาสตร์

“คุณบริหารไม่เป็นเอง คุณไม่ใช้ เพราะคุณไม่ไว้ใจเขา ทุกวันนี้ ถ้าไม่มีทหารหรือตำรวจดูแล จะนั่งอยู่ตรงนี้ได้หรือไม่” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าราคาแพง ยากจนทั้งแผ่นดินนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และอยากให้ฝ่ายค้านเสนอแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งรัฐบาลแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้ครู หนี้กยศ. ซึ่งรัฐบาลในอดีตเคยทำหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดถึง 55 ล้านบัญชี ซึ่งไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง แต่เป็นการช่วยผู้ที่มีปัญหาให้อยู่รอดได้ และพัฒนาไปสู่ความพอเพียงและยั่งยืนได้ และดูแลผู้ป่วยโควิดและวัคซีนต่างๆ ไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท

“สรุปแล้ว ที่ท่านพูดมาทั้งหมด ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง ผมจำเป็นต้องพูดตรงนี้ เพราะท่านว่าผม ทำอะไรไม่สำเร็จสักเรื่อง ผมจำเป็นต้องชี้แจง และขอให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่านแรงมา ผมก็พยายามแรงน้อยกว่าท่าน เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าท่านต้องการให้ผมโมโห ให้เกียรติกัน ดูที่คำพูด ถ้าอยากได้รับเกียรติจากคนอื่น ก็ต้องให้เกียรติคนอื่น ถ้าโจมตีลักษณะให้ร้าย พูดจาส่อเสียด ดูแล้วไม่ใช่สุภาพบุรุษ ผมไม่อยากฟังในสภานี้ แต่ผมให้เกียรติสภา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

วิษณุ ชี้ชัด บิ๊กตู่ นั่งนายกฯ เกิน 8 ปีไม่ได้แม้เว้นวรรค เหตุรธน.ระบุไว้ชัด

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า ถ้านายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งแบบต่อเนื่องหรือเว้นวรรค ก็ไม่สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ ซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ หมวดคณะรัฐมนตรี มาตรา 158 ระบุว่า พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี โดยมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกันนายกรัฐมนตรี ต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฎิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ดังนั้นถ้าใครดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีและเว้นวรรค 5 ปีแล้ว จะกลับมาเป็นอีกไม่ได้ เพราะต้องนับทุกครั้งบวกรวมกัน

ส่วนที่จะมีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวแล้วหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่ได้ติดตามว่ามีใครแอบไปยื่นไว้แล้วหรือยัง ซึ่งอาจจะยื่นแล้วก็ได้ เพียงแต่ตนไม่รู้ แต่ความลับไม่มีในโลก

ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่า จะยื่นแน่นอน โดยต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม

ที่มา: https://www.ryt9.com/

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“Cultured Meat” เนื้อสุกรในห้องปฏิบัติการ เตรียมจับมือภาคเอกชนบุกตลาดอุตสาหกรรมอาหารเชิงพาณิชย์
https://www.thaiquote.org/content/247592

การนั่งทำงานออฟฟิศทั้งวัน ทำไม? ถึงยิ่งนั่งยิ่งอ้วนมากันแบบยกชุด ทั้งก้น ขา หน้าท้อง
https://www.thaiquote.org/content/247591

Tesla และ Panasonic วางแผนลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV ชนิดก้าวหน้ามูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ในแคนซัส
https://www.thaiquote.org/content/247590