กม.ห้ามใช้มือถือขณะขับรถบังคับใช้แล้ว ฝ่าฝืนปรับ 400-1,000 บาท

กม.ห้ามใช้มือถือขณะขับรถบังคับใช้แล้ว ฝ่าฝืนปรับ 400-1,000 บาท


“รองโฆษก” แจ้งเตือนประกาศใช้มือถือขณะขับรถต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายมีผลบังคับใช้แล้ว ช่วยลดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของสังคม ฝ่าฝืนมีโทษปรับ400-1,000 บาท

 

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนน เพื่อลดการสูญเสียและการบาดเจ็บของประชาชน ซึ่งในปัจจุบันผู้ขับขี่รถมีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ โดยเป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดการเกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก ดังนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ขับขี่ขณะขับรถ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 43 (9) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ให้ผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้

1.ใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนาหรือระบบกระจายเสียง จากเครื่องโทรศัพท์ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่

2.ใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษสำหรับยึดหรือติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้กับส่วนหน้าของตัวรถทุกครั้ง ก่อนการขับรถ ทั้งนี้ ต้องไม่บดบังทัศนวิสัยหรือเสียความสามารถในการขับรถ กรณีผู้ขับขี่มีความจำเป็นต้องถือ จับ หรือสัมผัสโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อใช้งานโดยประการใด ๆ ให้ผู้ขับขี่หยุดหรือจอดรถในสถานที่สำหรับจอดรถอย่างปลอดภัย ก่อนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(9) ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดในขณะที่รถเคลื่อนที่ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น และเพื่อให้กฎหมายมีความทันต่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคตและเพื่อติดตามผลสัมฤทธิ์ของการบังคับใช้กฎหมายเรื่องนี้ จึงได้กำหนดให้หลังจากประกาศฉบับนี้ใช้บังคับแล้วเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือเมื่อมีเหตุจำเป็นอื่น ให้มีการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ขับขี่ขณะขับรถ โดยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อประกอบการพิจารณา

“รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนจากหลายกรณีที่เคยมีปัญหารับโทรศัพท์ขณะขับขี่ รวมถึงหลายกรณีที่เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้ขับขี่เองและของผู้ร่วมใช้ถนนคนอื่นๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐมีกลไกหลายแบบที่จะช่วยบรรเทาปัญหาและแก้ไขปัญหาการโทรระหว่างขับขี่ให้ดีขึ้น จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมายร่วมกันช่วยลดอุบัติเหตุเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและผู้อื่น ร่วมกันสร้างสังคมให้มีความปลอดภัยในการขับขี่ต่อไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว.

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

วช. นำ “ซินไบโอ โทโทล ไรซ์” ที่สกัดจากข้าวไทย มาแนะนำบนเวที NRCT TALK : ผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ครั้งที่ 3
https://www.thaiquote.org/content/248431

มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโปฮังพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่ที่วิ่งได้ 630 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
https://www.thaiquote.org/content/248384

จุฬาฯ ผุด ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ “จุลินทรีย์ขจัดคราบน้ำมันในทะเล” เทคโนโลยีสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม
https://www.thaiquote.org/content/248372