อินเดีย เร่งหาทางออกของปัญหา “คนไร้บ้าน” ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีรายได้น้อย ด้วยการใช้ “เทคโนโลยีภาพพิมพ์ 3 มิติ” (3D-printing) มาช่วยสร้างบ้านให้เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้พบว่า “เทคโนโลยีภาพพิมพ์ 3 มิติ” (3D-printing) สามารถช่วยเพิ่มจำนวนบ้านที่มีราคาราคาถูก (affordable) พร้อมด้วยกระบวนการสร้างที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
ทำให้ความนิยมสร้างบ้านด้วยเทคโนโลยีนี้ กำลังเติบโตมากขึ้นในปัจจุบัน โดยคาดว่าตลาดของโครงการสร้างบ้านด้วย“เทคโนโลยีภาพพิมพ์ 3 มิติ” จะเติบโตขึ้นมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (50,000 ล้านบาท) ภายในปี 2567
ด้านรัฐบาลอินเดียภายใต้นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ให้คำมั่นจะสร้างบ้านในเมืองหลังใหม่ให้ได้ 20 ล้านหลัง และบ้านในชนบทหลังใหม่อีก 30 ล้านหลัง ภายในปี 2565 ตามนโยบาย “บ้านสำหรับทุกคน” (Housing for All)
โครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการผ่าบริษัทสตาร์ทอัพ Tvasta ซึ่งได้รับการสนับสนุนของกระทรวงการเคหะและกิจการเมือง (Ministry of Housing and Urban Affairs) ของอินเดีย
Tvasta จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบ้านราคาถูก ตั้งแต่การลดระยะเวลาการก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้น ลดจำนวนขยะและพลังงานจากกระบวนการ และราคาบ้านในท้ายที่สุดมีราคาถูกกว่าการก่อสร้างแบบดั้งเดิม 30% โดยสามารถตอบโจทย์ในแง่ของราคาการรองรับปริมาณความต้องการ ตลอดจนในภาวะที่ต้องการที่พักพิงในช่วงภัยพิบัติธรรมชาติ
สำหรับต้นแบบบ้านตัวอย่างในโครงการดังกล่าว ถูกก่อสร้างขึ้นโดยมีขนาด 56 ตร.ม.ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางใต้ของอินเดีย ณ เมืองเจนไน โดยความร่วมมือกับ Terwilliger Center for Innovation in Shelter ภายใต้ Habitat for Humanity