อว.ไฟเขียว เรียนปริญญา ไม่กำหนดปีจบ ยกเลิกระบบรีบเรียนรีบจบ

อว.ไฟเขียว เรียนปริญญา ไม่กำหนดปีจบ ยกเลิกระบบรีบเรียนรีบจบ


นักศึกษา ได้เฮ กระทรวง อว.ปลดล็อก ไม่กำหนดปีจบการศึกษาทุกระดับปริญญา ยกเลิกระบบ รีบเรียนรีบจบ ตอบโจทย์การเรียนยุคใหม่

 

ศ.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา(กมอ.) มีมติยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับเพื่อตอบโจทย์การเรียนของนักศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ12 เดือน 12 ดี ว่า

 

การยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับ เป็นไปตามนโยบายของ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่มีการกำหนดระบะเวลาสำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี 4 ปี ไม่เกิน 8 ปี ปริญญาโท 2 ปี ไม่เกิน 5 ปี ปริญญาเอก 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี

 

ด้วยเหตุผลคือรีบเรียนรีบจบ แต่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยน เทคโนโลยี สังคม ที่เราจะพัฒนาคน ก็เปลี่ยนไป เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Liftlong Learning ซึ่งการกำหนดรยะเวลา ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาคน เพราะระหว่างเรียนเด็กอาจไปทำงาน หรือหาประสบการณ์ต่างๆข้างนอกห้องเรียน ตามความจริง

 

การเรียนปัจจุบัน ต้องออกไปทำงาน ทำภาคเอกชน เดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์เพื่อเรียนรู้ตัวเองและกลับมาเรียนหนังสือก็จะได้สิ่งใหม่ๆมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจำกัดการศึกษาด้วยเวลา

 

แต่ยังคงมีระบบการรีไทร์อยู่ หากเรียนไปแล้วมีผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ตามเงื่อนไข แต่หากเรียนได้ผลการเรียนดี แต่ถึงระยะเวลาที่กำหนดแล้วก็สามารถเรียนต่อได้

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการปลดล็อกจากกระทรวง โดยไม่มีกรอบเงื่อนไขของเวลา ซึ่งมหาวิทยาลัยสามารถกำหนดเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัยได้

 

อย่างไรก็ตามในอนาคต กมอ.ได้มีการวางหลักเกณฑ์ไว้ว่าปริญญาตรีอาจจะสามารถเรียนจบได้ภายใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้ยังมีข้อจำกัดทางกฎหมายอยู่ โดยกระทรวงเตรียมออกกฎกระทรวงมาตรฐานอุดมศึกษา โดยยังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา

 

“ประโยชน์ที่ได้รับจากการปลดล็อก เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้และสั่งสมองค์ความรู้ใหม่ๆ เด็กจะมีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิต หาประสบการณ์ได้มากขึ้น ประโยชน์ทางวิชาการ เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บางหลักสูตร การเรียน อาจจะก้าวไม่ทัน แต่หากยืดระยะเวลาเรียน เด็กก็สามารถเลือกเรียนได้มากขึ้น อาจจะไปทำงานเอกชน หรือเป็น สตาร์ทอัพ เด็กจะสามารถรู้ว่าต้องกลับมาเรียนในสาขาวิชาอะไรเพื่อต่อยอด เพื่อจะได้เกิดนวัตกรรม งานวิจัยและองค์ความรู้ใหม่ๆ จากการปลดล็อคในครั้งนี้” รองปลัด อว. กล่าว