“หมอประสิทธิ์” ชี้ เร่งฉีดวัคซีนไขว้ ป้องกัน “เดลตา” เหตุ “แอสตร้าฯ” เข็มเดียวเอาไม่อยู่

“หมอประสิทธิ์” ชี้ เร่งฉีดวัคซีนไขว้ ป้องกัน “เดลตา” เหตุ “แอสตร้าฯ” เข็มเดียวเอาไม่อยู่


หมอประสิทธิ์ เผยใช้สูตรฉีดวัคซีนไขว้ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันคนไทย หลังผลวิจัยพบ แอสตร้าเซนเนก้า เข็มเดียวไม่เพียงพอต่อการป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตาได้

 

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบการฉีดวัคซีนไขว้ ว่า จากผลการศึกษาที่พบว่า การฉีดวัคซีนไขว้ด้วย วัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 2 โดยห่างกัน 3 สัปดาห์นั้น ได้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม ซึ่งจะต้องฉีดห่างกัน 10-12 สัปดาห์ และต้องรอให้ภูมิคุ้มกันขึ้นในระดับที่สามารถป้องกันโรคได้อีก 2 สัปดาห์รวมเป็น 14 สัปดาห์

 

ดังนั้นการใช้สูตรฉีดวัคซีนไขว้ดังกล่าว จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงในระยะเวลารวมเพียง 5 สัปดาห์ ซึ่งความต่างของระยะเวลา 5 สัปดาห์และ 14 สัปดาห์นั้น มีความสำคัญมาก ในเวลาที่เราเจอกับเชื้อที่แพร่กระจายได้รวดเร็วและเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำต้องทำงานแข่งกับเวลา

 

สำหรับข้อมูลที่กล่าวว่า การฉีดวัคซีน แอสตร้าฯ เพียงเข็มแรก ก็สามารถป้องกันโรคได้ เป็นข้อมูลที่ใช้ได้กับสายพันธุ์ อัลฟ่า (อังกฤษ) แต่ไม่ใช่กับ สายพันธุ์ เดลตา (อินเดีย) ซึ่งกำลังระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ

 

โดยงานวิจัยต่างประเทศ ระบุว่า เข็มเดียวไม่เพียงพอ สำหรับการป้องกัน เดลตา โดยจะต้องฉีด 2 เข็ม ที่สำคัญคือ เมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนจะลดลง หากไม่มีการฉีดกระตุ้นให้ทันท่วงที และจะลดลงต่ำถึงจุดที่ไม่สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ซึ่งจะเป็นอันตราย

 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็มแรก และยังไม่ได้รับเข็มที่ 2 พบว่า เกิดการติดเชื้อจนกระทั่งเสียชีวิต ดังนั้น ระบบการจัดการบริหารวัคซีนที่ดี คือ การเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้สูง และเร็ว ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ต้องนำสูตรฉีดวัคซีนไขว้มาใช้