พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ในวันนี้ (2 เม.ย.63) เวลา 18.00 น. โดยได้ประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ทั่วราชอาณาจักร ในระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 3เม.ย.63
สำหรับข้อกำหนด ออกตามความใน มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) เพื่อให้มีมาตรการต่างๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่ง น้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อกานำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็น หรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้า หรือการเดินทาง และมีมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) หรือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้ใดฝ่าฝืนข้อนี้ ต้องระว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ข้อ 2 ในกรณีที่มีการประกาศหรือสั่ง ห้าม เตือน หรือแนะนำในลักษณะเดียวกับข้อ 1 วรรคหนึ่ง สำหรับจังหวัด พื้นที่หรือสถานที่ใดโดยกำหนดเงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาที่เข้มงวด หรือเคร่งครัดกว่าข้อกำหนดนี้ ให้ปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งนั้นต่อไปด้วย
ข้อ 3 ในกรณีที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายบุคคลใดซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจัดที่เอกเทศเพื่อควบคุม หรือกักกันบุคคลดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน 2563
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ส่วนประเด็นสำคัญอื่นๆ จากแถลงการณ์ นายกรัฐมนตรี มีระบุว่า ตนเองในฐานะแม่ทัพ จะไม่ยอมให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นทัพหลักต้องต่อสู้ภายใต้ความขาดแคลน ยืนยันว่า มีเวชภัณฑ์พร้อม ทั้งยา และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงมีการจัดเตรียม สถานที่ และเตียงพร้อมในการรองรับผู้ป่วยตามมาตรฐานสากลทุกประการ ทั้ง โรงพยาบาล หอพัก และโรงแรม
โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 ถือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลได้ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ
ขณะที่ด้านการสื่อสารในสภาวะวิกฤต นายกฯ กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจและผู้ปฏิบัติงานมีความชัดเจนไม่สับสนหรือสร้างความขัดแย้งศบค.จัดให้มีระบบการสื่อสารที่เป็น “เอกภาพ” ไปในทิศทางเดียวกันหรือ Single Voice โดยจะมีการแถลงข่าวที่ถ่ายทอดสด ไปทั่วประเทศในทุกช่องทาง เป็นประจำทุกวัน หลังการประชุมในช่วงเช้าโดยโฆษกศูนย์และผู้รับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น
งดเว้น และหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ของผู้ที่ไม่ได้รับมอบหมายหรือเกี่ยวข้องกับมาตรการต่างๆ ของศูนย์ผมขอให้สื่อมวลชนทุกสำนักรวมถึงสื่อโซเชียลใช้ความระมัดระวังในการสื่อสารโดยขอให้ใช้ข้อมูลจากศูนย์นี้ เท่านั้นห้ามการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งความเข้าใจผิด หรือบิดเบือนข้อมูลรวมถึงผู้ที่สร้างข่าวปลอมหรือ Fake News
และการส่งต่อข่าวปลอมทั้งที่ไม่เจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่มีผลต่อความมั่นคงก็จะมีโทษตามพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้อย่างหนักดังนั้น เราจะต้องงดการส่งต่อข้อมูลที่ไม่ทราบแหล่งที่มาหรือไม่มั่นใจเราควรส่งต่อข้อมูลที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์
ส่วนในเรื่องของการกักตุนสินค้า จะไม่ยอมปล่อยให้มีการกักตุน หากใครเอาเปรียบหาประโยชน์จากสถานการณ์นี้ มีโทษหนักระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และในเรื่องการทำงานนั้นขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือครอบคลุม ทั้งแรงงานในระบบ นอกระบบ และผู้ประกอบการ น้ำใจไทยจะช่วยให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปได้
สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า ขอให้ทุกคนมั่นใจ โดยตนเองจะทำทุกทางให้ประเทศไทยก้าวพ้นความยากลำบากนี้ไปให้ได้ ขอขอบคุณทุกฝ่าย และขอให้มั่นใจว่าจะทำทุกทางเพื่อให้ประเทศเราก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ขอให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน และประเทศไทยต้องชนะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คาด นายกฯเตรียมประกาศ เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้าน ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง ตี 4
“อนุทิน” ขอครม.เคาะพิเศษ บรรจุลูกจ้างสธ.เป็นขรก. 4 หมื่นอัตรา
ผงะ! ประธานรัฐสภาอิหร่าน ติดโควิด-19 ชี้ อาจต้องสู้ไปอีก 1 ปี
