วันนี้คนติดเชื้อเพิ่มขึ้น 104 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รักษาหายกลับบ้าน 59 ราบ ยอดคนติดเชื้ออยู่ในภาวะนิ่งมา 9 วันยอดที่กลับจากต่างประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น นายกฯสั่งชะลอคนไทยและชาวต่างชาติเข้าประเทศจนถึง 15 เม.ย.63
วันที่ 2 เม.ย. 63นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์โควิด-19 แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 2 เม.ย.2563 ว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในไทย 104 ราย รวมสะสม 1,875 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 59 รวมหายแล้วกลับบ้าน 505 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ศพ รวมตัวเลขผู้เสียชีวิต 15 ศพ
แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นคงที่ 9 วัน พบผู้ป่วยใน 62 จังหวัด สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ยังคงหนาแน่นอยู่ที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต และสมุทรปราการ โดยกลุ่มคนที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดสูงคือสัมผัสกับคนที่ป่วยมาก่อน และการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ


โดยผู้เสียชีวิต รายที่ 1 เป็นผู้ป่วยชายไทย เดินทางทางรถไฟกลับไป สุไหงโก-ลก จากขบวนรถไฟ สายกทม.-สุไหงโก-ลก เสียชีวิต ระหว่างรถไปวิ่งผ่านจ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้เสียชีวิต มีประวัติโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ ต้องมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 15 คน ที่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อควบคุมโรค
ผู็เสียชีวิต รายที่ 2 เป็นชาย เป็นโรคประจำตัว ถุงลมโป่งพอง-เบาหวาน ป่วยมีอาการไข้ขึ้น-ไอ-เจ็บคอ เข้ารักษาที่ รพ.ปัตตานี
รายที่ 3 ชายไทย อายุ 55 ปี ขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปพักบ้านที่จ.สุรินทร์ ไม่ได้เดินทางไปไหน มีอาการเหนื่อยมากขึ้น แล้วก็เสียชีวิต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยืนยันทุกคนต้องใช้หน้ากากอนามัย วันนี้ท่านนายกฯ ประชุม ศบค. เรื่องแรกข่าวดีของประเทศไทย มีการมอบชุดตรวจ ชุดหาไวรัสโควิด จากเอกชน มอบ 20,000 ชุดให้รัฐบาล
ตอนนี้เราสามารถผลิตเองได้แล้ว ราคาถูกลง ตรวจ 1 คน เหลือ 1,500 บาทเท่านั้น จากนำเข้าต่างประเทศ ชุดละ 4,500 บาท จะส่งมอบให้ครบ 100,000 ชุด นำไปใช้ใน รพ.ที่มีการตรวจโควิด-19 นอกจากนี้โรงแรมภาคเอกชน 18 แห่ง ยินดีให้ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม
โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า จากตัวเลขของคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแล้วเป็นโรคโควิด-19 ในอัตราที่สูง นายกรัฐมนตรีจึงมีนโยบายให้คนไทยในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศชะลอไปก่อนไปจนถึงวันที่ 15 เม.ย.63
นอกจากนี้จากการลงสำรวจที่ผ่านมา คนไทยให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย 97 เปอร์เซ็นต์ ล้างมือ 90 เปอร์เซ็นต์ ล้างมือด้วยเจล/แอลกอฮอล์ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังให้ความร่วมมือเรื่องระยะห่างทางสังคมเพียง 64.8
ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทางด้านฝ่ายความมั่นคงได้ทำการสำรวจวันเสาร์-อาทิตย์คนไทยอยู่บ้าน 40-50 % แต่พอวันธรรมดาอยู่บ้านเพียง 20-30 % ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือบริษัทเอกชนจัดนโยบายทำงานที่บ้านให้เข้มข้นขึ้น
ทางด้านการบริหารหน้ากากผ้าให้กับประชาชน เป้าหมายคือ 45 ล้านชิ้น จัดทำแล้ว 43 ล้านชิ้น ส่วนหน้ากาก N95 ที่ขาดแคลน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ประเมินมา เพื่อเตรียมการจัดซื้อให้เพียงพอ แต่เนื่องจากขณะนี้มีปัญหาด้านซัพพลาย แหล่งผลิตไม่เพียงพอ เพราะทุกประเทศใช้ ตอนนี้ไทยใช้การนำเข้ามาจากจีนและญี่ปุ่น
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
- 8 สิ่งที่จะเกิดขึ้น “เมื่อโควิด-19 หายไป” กับโลกที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
- ส่ง “เรือธงฟ้า” วิ่งขายข้าวสาร-อาหารแห้ง ไข่ น้ำมันปาล์ม ช่วย ปชช. ริมน้ำ
- ปินส์เล่นบทโหด! สั่ง ยิงทิ้งใครละเมิดมาตรการปิดเมือง
