หนีไม่ได้ก็ต้องอยู่ร่วมกัน : “โรงเรียน-มหา’ลัย-บ้าน” ทำอย่างไร ป้องกัน “โควิด-19”

หนีไม่ได้ก็ต้องอยู่ร่วมกัน : “โรงเรียน-มหา’ลัย-บ้าน” ทำอย่างไร ป้องกัน “โควิด-19”


ถึงคิวกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ที่ต้องมีมาตรการคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไวรัสร้ายโควิด-19 สธ.วางกรอบ 5 ข้อใหญ่ต้องปฏิบัติตาม

หลังจากเกิดกระแสที่โรงเรียนแห่งหนึ่งต้องปิดเรียนไป 14 วัน หลังพบว่าเด็กชายวัยประถมศึกษาที่ไปใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น ทำให้เกิดความหวาดวิตกว่าเชื้อไวรัสอันตรายจะแพร่หลายไปนั้น ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาให้คำแนะนำสำหรับการแยกตัวในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งกลุ่มที่เดินทางไปประเทศเสี่ยงไวรัสโควิด-19 หรือในกลุ่มที่มีสมาชิกในครอบครัวได้รับเชื้อเหมือนกับเคสข้างต้น โดยเป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งโรงเรียน นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองที่ดูแลนักเรียน ซึ่งมีทั้งหมด 5 ข้อใหญ่ และมีข้อย่อย ดังนี้

1.ติดตามรายชื่อประเทศที่มีรายงานการระบาดต่อเนื่องในชุมชนจากเว็บไซด์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
– เลือกที่พักอาศัย สำหรับการแยกตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
– ให้แยกห้องนอนและห้องน้ำของนักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด โดยไม่ปะปนกับสมาชิกคนอื่นในบ้าน
– มีอากาศถ่ายเทดี
– มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมา และสมาชิกที่อาศัยร่วมบ้าน เช่น หน้ากากอนามัย สบู่ เจลแอลกอฮอล์ ถุงมือ
– อยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางมาโรงพยาบาลได้สะดวกด้วยพาหนะส่วนบุคคลหรือพาหนะของสถานศึกษา
– กำหนดผู้ประสานงานของสถานศึกษาในการติดต่อกับนักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมา และประสานกับ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่
– เตรียมความพร้อมเรื่องหลักสูตรการเรียนพิเศษจากที่บ้าน เช่น online course

2.การคัดกรองผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ
– นักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ในการคัดกรองไข้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล
– หากมีอาการไข้ หรือ อาการไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทราบทันที
– กรณีวัดอุณหภูมิร่างกายได้มากกว่า 37.5 องศา จะถูกแยกตัวมาตรวจซ้ำ หากยังมีไข้ จะส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาตามระบบ

 

3.การปฏิบัติตัวระหว่างการแยกสังเกตอาการที่บ้าน/ที่พัก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
– ให้หยุดการเข้าเรียน และงดเข้าร่วมกิจกรรมของสถานศึกษาที่มีการรวมคนจำนวนมาก
– นักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมา ควรนอนแยกห้อง ไม่ออกนอกบ้าน ไม่เดินทางไปที่ชุมชนหรือที่สาธารณะอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันเดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดมาถึงประเทศไทย
– รับประทานอาหารแยกจากผู้อื่น อาจรับประทานอาหารร่วมกันได้ แต่ต้องใช้ช้อนกลางทุกครั้ง
– ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ ร่วมกับผู้อื่น
– ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที กรณีไม่มีน้ำและสบู่ ให้ลูบมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้น อย่างน้อย 70%
– สวมหน้ากากอนามัย และอยู่ห่างจากคนอื่นๆ ในบ้านประมาณ 1-2 เมตร
– หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ
– การทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ให้ใช้วิธีพับ ม้วน ใส่ถุงพลาสติกและปิดปากถุงให้สนิทก่อนทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำและสบู่ทันที
– ปิดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ไอจาม โดยปิดถึงคาง แล้วทิ้งทิชชูลงในถุงพลาสติกและปิดปากถุงให้สนิทก่อนทิ้ง หรือใช้แขนเสื้อปิดปากจมูกเมื่อไอหรือจาม และทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทันที
– ทำความสะอาดบริเวณที่พักของนักเรียน/นักศึกษา เช่น เตียง โต๊ะ บริเวณของใช้รอบ ๆ ตัวของผู้ป่วย รวมถึง ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำ 99 ส่วน)
– ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ฯลฯ ด้วยสบู่หรือผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ หรือซักผ้าด้วยน้ำร้อนที่ อุณหภูมิน้ำ 60-90 องศาเซลเซียส

4.วิธีสังเกตอาการในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา
– ที่หอพักนักเรียน/นักศึกษา ให้เจ้าหน้าที่จัดให้มีจุดคัดกรองอุณหภูมิด้วย Handheld thermometer บริเวณหน้าหอพัก ในจุดที่นักเรียน/นักศึกษาทุกคนที่เดินทางกลับมาต้องเดินผ่านเข้าออก
– สังเกตอาการไข้และอาการระบบทางเดินหายใจ กรณีมีปรอทวัดไข้แนะนำให้วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน ช่วงเช้าและเย็น

5.การปฏิบัติตัวของผู้อยู่อาศัยร่วมบ้าน และวิธีการทำลายเชื้อในสิ่งแวดล้อมในบ้าน
– ทุกคนในบ้านควรล้างมือบ่อยครั้ง เพื่อลดการรับและแพร่เชื้อ โดยใช้น้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที กรณีไม่มีน้ำและสบู่ ให้ลูบมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นอย่างน้อย 70%
– เฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยของผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือสมาชิกคนอื่นในบ้าน เป็นเวลา 14 วัน หลังสัมผัสกับผู้ป่วย
– นอนแยกห้องกับนักเรียน/นักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด
– อาจรับประทานอาหารร่วมกันได้ แต่ต้องใช้ช้อนกลางทุกครั้ง
– ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้่ำ ร่วมกับผู้เดินทางกลับ
– หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดในระยะ 1-2 เมตรกับนักเรียน/นักศึกษาที่กลับมาจากพื้นที่ระบาด
– ทำความสะอาดบริเวณที่พักของนักเรียน/นักศึกษา เช่น เตียง โต๊ะ บริเวณของใช้รอบ ๆ ตัวของผู้ป่วย รวมถึงห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์
– ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ฯลฯ ด้วยสบู่หรือผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ หรือซักผ้าด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิน้ำ 60-90 องศาเซลเซียส
– หากมีแม่บ้านทำความสะอาดหอพักของนักศึกษา/นักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด แนะนำให้ใส่ชุดป้องกันร่างกาย ได้แก่ หน้ากากอนามัย หมวกคลุมผม แว่นตากันลม ถุงมือยาว รองเท้าบูท และผ้ากัน เปื้อนพลาสติก

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ