เปิดแผนรับมือภัยพิบัติฤดูฝน! พบในพื้นที่เสี่ยง 54 จังหวัด ชี้ไทยติดอันดับ 3 อาเซียน เสี่ยงภัยพิบัติสูง

เปิดแผนรับมือภัยพิบัติฤดูฝน! พบในพื้นที่เสี่ยง 54 จังหวัด ชี้ไทยติดอันดับ 3 อาเซียน เสี่ยงภัยพิบัติสูง

ภัยฤดูฝนกำลังมา! รัฐทุ่มงบ 370 ล้าน รับมือภัยธรรมชาติ ในพื้นที่เสี่ยงภัย 54 จังหวัด 15,000 หมู่บ้าน เผยสถิติ ปี’67 เกิดภัยพิบัติ 1,112 เหตุการณ์ และผลสำรวจชี้ ไทยเสี่ยงอันดับ 3 ของอาเซียน มีโอกาสเกิดพิบัติสูง

 

 

สถานการณ์ภัยพิบัติในไทย

 

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา แม้คาดการณ์ว่าปีนี้ปริมาณฝนอาจน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติยังคงสูง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก

จากข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เผยว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยรวม 1,112 เหตุการณ์ ประกอบด้วย

  • แผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก 160 เหตุการณ์
  • แผ่นดินไหว 947 เหตุการณ์
  • หลุมยุบ 5 เหตุการณ์

ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินถล่มครอบคลุมถึง

  • 54 จังหวัด
  • 463 อำเภอ
  • 1,984 ตำบล
  • 15,559 หมู่บ้าน

 

คิดเป็นพื้นที่เสี่ยงรวม 142,067 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณร้อยละ 25 ของพื้นที่ทั้งประเทศ

 

 

ไทยอันดับ 3 ในอาเซียนด้านความเสี่ยงภัยพิบัติ

 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยพิบัติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยประเทศไทยติดอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

“ปัจจุบันพื้นที่เสี่ยงมีประมาณ 600-700 จุดทั่วประเทศ ซึ่งเรามีระบบเตือนภัยอยู่บ้างแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายจตุพรกล่าว

 

 

แผนรับมือภัยพิบัติ ปี 2568

 

รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัยเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต พร้อมทั้งได้เสนอของบประมาณกลางวงเงิน 370 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว

แผนรับมือภัยพิบัติในปี 2568 ประกอบด้วย

  • ติดตั้งเครื่องติดตามการเคลื่อนตัวของดิน 140 สถานีในปีนี้
  • เป้าหมายในอนาคต ติดตั้งให้ครบ 600 สถานีทั่วประเทศ
  • จัดหาเทคโนโลยีเฝ้าระวังรอยเลื่อนที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว

งบประมาณ 370 ล้านบาทนี้จะถูกใช้เพื่อเตรียมรับมือภัยพิบัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม โดยเน้นการเตรียมเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับการเฝ้าระวังและป้องกัน

 

ถึงแม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะคาดการณ์ว่าปริมาณฝนในปีนี้อาจน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงที่ภาคเหนือและภาคอีสานจะเผชิญกับพายุ 1-2 ลูก คำถามสำคัญคือ งบประมาณ 370 ล้านบาทที่รัฐบาลจัดสรรจะเพียงพอต่อการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้หรือไม่?

ไม่ว่าอย่างไร สิ่งสำคัญคือประชาชนควรติดตามข่าวสารและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ได้รับการระบุไว้แล้ว ทั้งนี้เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้

 

 

อ้างอิง

https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/857839

https://www.thaipost.net/general-news/769916/

 

บทความอื่น ที่น่าสนใจ

 

ฝนตกทีไร ไฟสว่างทุกครั้ง! ส่อง เทคโนโลยี ‘Plug Flow’ นวัตกรรมเปลี่ยนหยดน้ำฝนให้เป็นพลังงานสะอาด