ผบ. ทบ. แถลง แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่มีทหารในสักกัดกองทัพบกก่อเหตุร้าย ย้ำนับตั้งแต่ลั่นไกสังหารผู้บริสุทธิ์ เขาคือ “อาชญากร” ขอร้องอย่าตำหนิกองทัพ และทหาร ขอให้ มาลงที่ผบ.ทบ. พร้อมรับทุกคำตำหนิ
วันนี้ (11 ก.พ.63) เมื่อเวลา 09.44 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เปิดแถลงข่าวโดยกล่าวถึงเหตุการณ์ทหารกราดยิงประชาชนกลางเมืองนครราชสีมาว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อญาติผู้เสียชีวิต จากการที่ทหารในสังกัดกองทัพบกเป็นผู้ก่อเหตุ
สำหรับเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุประสงค์ที่จะนำเอาวุธปืนสงครามไปก่อเหตุ ตั้งแต่การชิงอาวุธและเครื่องกระสุนในค่ายทหาร การกราดยิงประชาชนไปตลอดทาง ไปจนถึงก่อเหตุในห้างเทอร์มินอล 21 ส่วนสาเหตุและมูลเหตุนั้น เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา และจากเครือญาติ
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการซื้อขายที่ดินแล้วผิดสัญญากันในผลตอบแทน ซึ่งในรายละเอียดจะต้องสืบต่อไปว่า มีผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กี่คนและใครบ้าง ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม วินาทีที่ทหารผู้นี้ลั่นไกผู้บริสุทธิ์ เขาคือ “อาชญากร” ในส่วนของมาตราการป้องกันรักษาความปลอดภัยของกองทัพบก ได้มีการป้องกันตามระเบียบปฏิบัติมานานแล้ว แต่หากหน่วยไหนหละหลวมก็ต้องมีมาตรการเพิ่มขึ้น อย่าลืมว่าผู้ก่อเหตุสังกัดอยู่หน่วยนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงทำให้รู้ลู่ทางเข้า-ออกและจังหวะในการก่อเหตุทั้งหมด
สำหรับการบัญชาการ ตนไปถึงประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. ไปเพื่อดูและประเมินภัยคุกคาม ตัดสินใจสั่งการบริหารความเสี่ยง หลังจากรับทราบข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงเย็นได้เข้าร่วมกันประชุมหารือ เพื่อแจ้งไปให้นายกฯทราบ ก่อนดำเนินการใช้อำนาจกฎหมายปกติ คือ ให้ผบ.ตร.เป็นผบ.เหตุการณ์ ขณะที่ นายกฯ ได้สั่งการว่า ให้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของประชาชนมากที่สุด และจะให้สูญเสียมากกว่านี้ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ติดอยู่
- สมเด็จพระสังฆราช โปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์ ประทานแก่ผู้ประสบเหตุ
- ในหลวง-ราชินี ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ นายกฯยังคงให้ผมประเมินสถานการณ์ร่วมกับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้จัดกำลัง หน่อยฉก. 90 มาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากผบ.เหตุการณ์ร้องขอ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ปรากฏว่า ผบ.ตร. ไม่ได้ร้องขอกำลังฝ่ายทหารแต่อย่างใด
ดังนั้นฝ่ายทหารจึงออกมาอยู่ด้านนอก เพื่อช่วยจัดยุทโธปกรณ์ เตรียมโรงพยาบาล ภาครัฐ เอกชน จัดทหารเข้าไปบริจาคโลหินเกือบพันนาย เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บเยอะ รพ.ต่าง ๆ ขาดเลือด หรือสำรองไว้หากไม่เพียงพอ
หลังจากนั้นประมาณ 05.00 น. ผมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกนอกพื้นที่ได้ไปเตรียมบรรยายสรุปให้นายกฯฟัง ประมาณ 09.00 น. ยืนยันว่าทางฝ่ายทหารมีการประสานงานกับฝ่ายควบคุมสถานการณ์ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยพร้อมจะตั้งหน่วยงานตรวจสอบรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใต้บังคับบัญชา หากเกิดกรณีถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชา โดยผู้ร้องเรียนจะต้องแสดงตัวตนชัดเจน และจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ
“ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุขึ้นนั้น มีคนมากมายด่าว่าทหาร ด่าว่ากองทัพบก กระผมอยากจะให้ทราบว่า ท่านอย่าด่ากองทัพบก เพราะเป็นองค์กรไม่มีความรู้สึก ขณะที่ทหารตระเวนชายแดน ปราบปรามยาเสพติด เสี่ยงชีวิตปกป้องอธิปไตยของชาติ ออกไปช่วยเหลือภัยแล้ง ไฟไหม้ป่า ที่เสียสละที่ดี ๆ มีทั่วกองทัพบก อย่าไปด่าว่าเขาเลย อย่าด่าว่าทหาร เขาจะเสียกำลังใจในการทำงาน ไม่มีใครในโลกนี้อยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศตนเอง เพราะฉะนั้นหากจะด่าหรือตำหนิให้มาด่า พล.อ.อภิลักษ์ คงสมพงษ์ ผมน้อมรับคำตำหนินั้นไว้ เพราะผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก…” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
