Acamp แพลตฟอร์มคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์อัตโนมัติ ฝีมือคนไทย ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ SME ไทยรับมือภาษีคาร์บอน

Acamp แพลตฟอร์มคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์อัตโนมัติ ฝีมือคนไทย ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ SME ไทยรับมือภาษีคาร์บอน

ในยุคที่กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกเข้มงวดขึ้นทุกวัน การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในการค้าระหว่างประเทศ แต่ความยุ่งยากในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) กำลังจะเป็นเรื่องง่ายด้วย ‘Acamp’ แพลตฟอร์มคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์อัจฉริยะจากฝีมือนักวิจัยไทย ที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถติดตามและจัดการการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูว่า แพลตฟอร์มนวัตกรรมไทย สามารถการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างยั่งยืน ได้อย่างไร?

 

 

 

คำนวณ CFO แบบอัตโนมัติและเรียลไทม์

 

ดร.อัมพร โพธิ์ใย นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการลดคาร์บอน เนคเทค สวทช. เล่าว่าทีมวิจัยได้ศึกษาปัญหาที่ผู้ประกอบการเผชิญในการจัดเก็บข้อมูล การจำแนกประเภท และการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ ก่อนนำมาพัฒนาเป็นแพลตฟอร์ม Acamp ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

 

Cr. ภาพ : https://www.nectec.or.th/

 

ระบบการนำเข้าข้อมูลของ Acamp แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก

  1. ข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้า – ทีมวิจัยได้พัฒนา ZCARBON ซึ่งเป็นเอดจ์คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์สำหรับจัดเก็บข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ คำนวณค่าคาร์บอนฟุตพรินต์ทันที และส่งข้อมูลไปยังคลาวด์เพื่อให้ Acamp นำไปใช้คำนวณค่า CFO ต่อโดยอัตโนมัติ
  2. ข้อมูลจากระบบ ERP – ระบบจะรวบรวมข้อมูลชนิดและปริมาณของวัตถุดิบ เชื้อเพลิง และการนำทรัพยากรไปใช้ในการผลิต โดยทีมวิจัยได้ออกแบบกระบวนการส่งข้อมูลอัตโนมัติไว้ 2 รูปแบบ คือผ่าน API หรือการสร้างรายงานไปไว้ที่คลาวด์
  3. ข้อมูลอื่นๆ – ข้อมูลที่จำเป็นแต่ไม่ได้บันทึกไว้ในระบบทั้งสอง ผู้ประกอบการสามารถกรอกข้อมูลเข้าสู่ Acamp โดยตรงผ่านหน้าเว็บแอปพลิเคชัน เช่น ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งสินค้า หรือการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการผลิต

เมื่อเริ่มใช้งานระบบ Acamp ครั้งแรก จะมีทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและระบบโรงงานที่ผ่านการอบรมโดยเนคเทค สวทช. (ปัจจุบันมีมากกว่า 70 คน) เข้าช่วยตั้งค่าระบบและวางแผนการคำนวณค่า CFO ของโรงงานให้ตรงตามมาตรฐาน GHG Protocol ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้น Acamp จะทำงานอัตโนมัติ คำนวณและติดตามผลแบบเรียลไทม์ พร้อมแสดงผลในรูปแบบแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย

 

Cr. ภาพ : www.nstda.or.th

 

จุดเด่นของ Acamp

นอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้ว Acamp ยังมีจุดเด่นสำคัญ

  • เป็นระบบ adaptive ที่ปรับแต่งสูตรการคำนวณให้สอดคล้องกับค่า Emission Factor (EF) ที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) กำหนดได้โดยอัตโนมัติ
  • การจัดเก็บ วิเคราะห์ และคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพรินต์เป็นไปตามมาตรฐานสากล ISO 14064-1 ทำให้ผู้ประกอบการนำข้อมูลไปใช้ยื่นเพื่อการค้ากับต่างประเทศได้ทันที

 

Cr. ภาพ : www.nstda.or.th

 

การคำนวณ CFO สู่เป้าหมาย Net Zero Emission

 

แม้ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ประกอบการในบางอุตสาหกรรมต้องจัดทำค่า CFO เพื่อนำไปคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพรินต์ผลิตภัณฑ์ (CFP) สำหรับการส่งออกไปยังประเทศที่มีมาตรการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนแล้ว เช่น สหภาพยุโรปที่มีมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) หรือ ‘มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน’

สำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าภายในประเทศ รวมถึงภาคบริการ การจัดทำข้อมูลค่า CFO และ CFP จะเป็นประโยชน์ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และหากในอนาคตประเทศไทยมีการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนรายบุคคลเช่นเดียวกับหลายประเทศ สินค้าและบริการที่มีค่าคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำจะได้รับความสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการทราบถึงค่า CFO และ CFP ของสินค้าและบริการ ยังส่งผลดีต่อการลดต้นทุนการผลิตในภาพรวม และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม

 

เป้าหมายและการพัฒนาในอนาคต

 

เป้าหมายปลายทางของทีมวิจัยในการพัฒนา Acamp คือการทำให้ผู้ประกอบการตระหนักรู้ถึงค่า CFO และ CFP ของตัวเอง เพื่อนำไปสู่การประเมินความเป็นไปได้ในการลดการปล่อยคาร์บอนในแต่ละกิจกรรมขององค์กร โดยอาจเริ่มต้นจากจุดที่แก้ไขได้ง่าย เช่น การปรับอุณหภูมิตู้แช่วัตถุดิบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อลดการใช้พลังงานและยืดอายุอุปกรณ์

ทีมวิจัยยังมีแผนจะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางแขนงต่างๆ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้ประกอบการลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อมุ่งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (net zero emissions)

 

เข้าร่วมโครงการนำร่อง

 

ปัจจุบันทีมวิจัยเปิดให้บริการเทคโนโลยี Acamp และ ZCARBON ผ่าน IDA Platform ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการนำร่องสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nectec.or.th/smc/ida-platform/

ในปี 2568 ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) สวทช. มีแผนจัดแคมเปญเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการยกระดับโรงงานสู่อุตสาหกรรม 4.0 ผ่าน IDA Platform ทั้งการให้คำปรึกษา การสนับสนุนเทคโนโลยี และการเชื่อมต่อกับแหล่งเงินทุน

ผู้ประกอบการที่สนใจเทคโนโลยี Acamp และ ZCARBON สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DTIRT อีเมล [email protected] หรือ Line @DTIRT

 

อ้างอิง

https://www.nstda.or.th/home/news_post/s-and-t-implementation-acamp-cfo-cfp-carbon-tax/

https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-software/acamp.html

 

บทความอื่น ที่น่าสนใจ

รู้จัก Water Footprint ‘รอยเท้าน้ำ’ ก่อนใช้…คิดสักนิด ลดวิกฤตขาดแคลนน้ำ