วันนี้ (16 ม.ค.63) นายศรราม เทพพิทักษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ทรงพล อธิวัฒน์ธนานันท์ รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร หลังเงินในบัญชีได้หายไปร่วมหลายแสนบาท กสิกรแจง เพราะคนใกล้ตัว
นายศรราม กล่าวว่า ได้เปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารสีเขียวแห่งหนึ่งที่สาขาลาดพร้าว 10 และมีบัตรเดบิตสำหรับถอนเงินสด แต่ไม่ได้เปิดทำธุรกรรมออนไลน์ ต่อมาวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ได้นำเงินฝากเข้าบัญชี จำนวน 1,100,000 บาท รวมมีเงินเหลือในบัญชี 1,105,750.49 บาท และในวันเดียวกันก็ได้นำบัตรเดบิตไปซื้อสินค้าแต่จำสถานที่ไม่ได้
ต่อมาวันที่ 14 มกราคม ก็ได้นำสมุดบัญชีไปเบิกถอนเงินสด จำนวน 346,836.12 บาท ในธนาคารที่เปิดบัญชี และวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาก็ได้นำบัตรเดบิตไปถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มตึกโอลิมเปียไทยพลาซ่า ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง พบว่าเงินในบัญชีได้สูญหายไป
โดยพบว่าเมื่อวันที่ 13 มกราคม เงินในบัญชีได้ถูกโอนออกไป 2 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท และเมื่อวันที่ 14 มกราคม ก็โอนเงินออกไปอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 130,000 บาท รวมเงินที่หายไปทั้งสิ้น 560,000 บาท จึงมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ และติดตามเงินของตนที่หายไปจากบัญชี
เบื้องต้น ร.ต.ท.ทรงพล ได้สอบปากคำพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวผ่านแถลงการณ์ ระบุว่า
“ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อออนไลน์หลายสำนักเรื่อง “คุณศรราม เทพพิทักษ์” นักแสดงชื่อดัง โร่แจ้งความ เงินโอนออกจากบัญชีสูญเงินไปแล้วครึ่งล้าน” โดยบางแห่งอ้างถึงธนาคารกสิกรไทยนั้น
ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการทำรายการ พบว่าเป็นการทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพผู้ทำรายการ เป็นคนใกล้ตัวของเจ้าของบัญชี และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบธนาคารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ธนาคารได้เรียนคุณศรราม ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีให้รับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563″

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
