โพลชี้! ชาวอเมริกันกว่า 50% ยี้แผน”ทรัมป์” มองอิหร่านเป็นภัยคุกคาม เชื่อ! สหรัฐ-อิหร่าน เปิดสงครามแน่
วันที่ 9 มกราคม 2563 – สำนักข่าวรอยเตอร์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกัน ช่วงวันที่ 6-7 มกราคมที่ผ่านมา ภายหลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งใช้โดรนโจมตีในอิรัก เพื่อสังหาร กาเซม โซไลมานี นายพลคนสำคัญของอิหร่าน และเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลาง จนรัฐสภาอิรักเรียกร้องให้อเมริกาถอนทหารออกจากอิรัก

โดยผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ปรากฏว่าส่วนใหญ่ “ไม่เห็นด้วย” กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มากขึ้น จากกรณีการรับมือกับอิหร่านที่มีการสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ สังหารนายพลของอิหร่าน นอกจากนี้ความเห็นส่วนมากของชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ยังคาดว่า”ทั้ง 2 ประเทศจะทำสงครามกันในอนาคต”
ทั้งนี้ พบว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 53% “ไม่เห็นด้วย” กับวิธีรับมืออิหร่านของทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 9% จากที่เคยสำรวจในลักษณะเดียวกันเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ส่วนชาวอเมริกันที่ “ไม่เห็นด้วยอย่างมาก” ต่อการรับมืออิหร่านของ ทรัมป์ มี 39% เพิ่มขึ้นจากโพลสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 10%
ขณะที่ กระแสความไม่พอใจและไม่เห็นด้วยกับ ทรัมป์ เพิ่มมากขึ้นในบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต และกลุ่มที่เป็นกลาง แต่สำหรับผู้สนับสนุนรีพับลิกันยังคงเดิม โดยผู้สนับสนุนเดโมแครตจะมีประมาณ 9 ใน 10 ราย กับผู้ที่เป็นกลาง 5 ใน 10 ราย ที่ไม่เห็นด้วยกับ ทรัมป์ ส่วนผู้สนับสนุนรีพับลิกันมีแค่ 1 ใน 10 ที่ไม่เห็นด้วยกับ ทรัมป์
สำหรับส่วนผู้ที่เห็นด้วยกับการรับมืออิหร่านของ ทรัมป์ มีผู้สนับสนุนรีพับลิกันเห็นด้วย 8 ใน 10 ส่วนผู้สนับสนุนเดโมแครตมีแค่ 1 ใน 10 กับผู้ที่เป็นกลาง 4 ใน 10 ที่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีการสำรวจระหว่างวันที่ 3-6 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่า ชาวอเมริกันมองอิหร่านเป็นภัยคุกคามถึง 41% และชาวอเมริกัน 71% เชื่อว่าสงครามกับอิหร่านจะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
สุดทึ่ง! ฝีมือนักวิจัยไทย เพาะพันธุ์ปลาสวายออกลูกเป็นปลาบึก ครั้งแรกของโลก
