สธ.เห็นชอบ “เทศกาลปีใหม่’63” ต้องคุมแอลกอฮอล์

สธ.เห็นชอบ “เทศกาลปีใหม่’63” ต้องคุมแอลกอฮอล์


“หมอหนู” นั่งโต๊ะประชุมนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นพ้องเทศกาลปีใหม่นี้ต้องคุมเหล้า-เบียร์ ชี้หากเจอต่ำ 20 ปีเกิดอุบัติเหตุให้เจาะเลือดหาแอลกอฮอล์ทุกรายไม่มีเว้น

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2563 เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีพบว่ามีจำนวนอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก ขณะที่ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาจะพบน้อยกว่าช่วงอื่น ๆ โดยเทศกาลปีใหม่ 2562 เกิดอุบัติเหตุ 3,791 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 463 คน ร้อยละ 43.66 มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์

เพื่อเป็นการลดปัจจัยเสี่ยง หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องบูรณาการการทำงาน เน้นการบังคับใช้กฎหมาย จัดทำแผนปฏิบัติการตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ กำหนดระดับความเสี่ยงของพื้นที่ เตรียมความพร้อมก่อนเทศกาล โดยชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้จัดกิจกรรมปีใหม่ทุกรายให้ทราบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จัดทำแผนป้องกันการ ทะเลาะ วิวาท หรือการบาดเจ็บจากการดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่จัดงานประกอบการขออนุญาตทุกครั้ง รวมทั้งให้ส่วนราชการจัดงานเลี้ยงปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี อย่าตกเป็นเครื่องมือการตลาด เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551

สำหรับมาตรการช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนหรือด่านชุมชน จัดทีมเชิงรุกร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ป้องกันและแยกผู้ดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชนไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดเต็มตามที่กฎหมายกำหนด และขอความร่วมมือกรมคุมประพฤติให้คัดกรองและส่งต่อผู้กระทำความผิดฐานเมาแล้วขับและศาลถูกสั่งคุมความประพฤติทุกรายที่ยินยอมเข้ารับการบำบัดที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง กรณีพบผู้บาดเจ็บจากอุบัติทางถนนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีและสงสัยว่าดื่มสุรา ให้ส่งเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือด หรือเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ทางลมหายใจทุกราย รวมทั้งสอบถามถึงสถานที่ที่จำหน่ายและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พื้นที่จุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ ผับ บาร์ ร้านค้า ลานเบียร์ ร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เวทีคอนเสิร์ต งานมหกรรมต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว พื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองบ้านหรือครัวเรือนที่ตั้งวงดื่มในหมู่บ้าน

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“ดูเตอร์เต”ควันออกหู จี้ทีมจัด “ซีเกมส์” ทำฟิลิปปินส์อับอายนานาชาติ