อีเจี๊ยบฯ จัดหนัก อัดตัวแทนล่อซื้อ จ้างวานให้เด็กอายุ 15 ปีทำกระทงรูปลิขสิทธิ์ จนถูกปรับ ชี้น่าละอายในวงการลิขสิทธิ์ ใช้ช่องว่างกฎหมายหลอกตบทรัพย์เด็ก พร้อมติงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไม่ใช้วิจารณญาณให้ดี ด้าน หอการค้าโคราช เร่งเข้าช่วยเหลือ เล็งรื้อคดี
วันนี้ (5 พ.ย.62) จากกรณี ตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ สั่งเด็กอายุ 15 ปีทำกระทง รูปสินค้าลิขสิทธิ เพื่อล่อซื้อดำเนินการจับกุม นำไปสู่การต่อรองการเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท ต่อมาได้ต่อรองเหลือ 5,000 บาท จนเป็นข่าวดังและมีการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวกันมากบนโลกโซเซียล
โดยวันนี้ (5 พ.ย.62) เพจดัง “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนเกือบ 3 ล้านคน ได้วิจารณ์การกระทำของตัวแทนบริษัทและ เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเผ็ดร้อน ดังนี้
“ข่าวที่กูเชื่อว่า เมื่อวาน ทุกคนอ่านแล้ว โคตรโมโห!!!
เรื่องไอ้ …ล่อจับลิขสิทธิ์กระทง เด็ก 15
…กูไม่รู้จะสรรหาคำ .. อะไรมาด่าไอ้นรกนี่
กูเป็นเพื่อนเป็นญาติมัน กูเลิกคบนะ กูอาย
คือกูสนับสนุนการไม่ละเมิดลิขสิทธิ์นะ
ถ้ามึงไปจับตามโรงงานผลิต ตามตลาดนัดแล้วเจอ อาเจ๊อาเฮียที่ไหนมันขายของปลอม เอาตำรวจมาจับ โอเค มึงจับ..เลย อันนี้ไม่ว่า
นี่เด็กมันทำกระทงขาย ก๊อกๆ แก๊กๆ มึงสั่งให้เด็กมันทำ เด็กมันจะไปรู้..อะไร มันก็อุตส่าห์ อดหลับอดนอนทำตามที่มึงสั่ง
คิดว่าจะได้ตังมาช่วยครอบครัว
ปีนึงมันขายแค่วันเดียวมึง
มึงยังทำมันได้ ไอ้…
เราๆ คงเคยได้ยินเรื่องเลวๆ ในการจับลิขสิทธิ์มาเยอะนะ พี่ก็คงรู้ ว่าเค้าเรียกอาชีพอย่างพี่ว่าอะไร 555555
แต่ไม่น่าเชื่อ ว่ามึงจะหมดปัญญาทำมาหาแ-กถึงขนาด หาเงินจากการ หลอกเด็ก ผญ. อายุแค่ 15 ให้ทำกระทง 5555
สวะชิบหาย
นี่คือ…สุดๆ ของความระยำ ความน่าละอายในวงการลิขสิทธิ์ เท่าที่กูเคยได้ยินมาเลย
แล้วก็ขอติงพี่ๆ ตำรวจนิดนะครับ
ฟังท่านให้สัมภาษณ์ว่า ต้องจับตามกฎหมาย นี่ก็ช่วยไกล่เกลี่ยจาก 50,000 ให้เหลือ 5,000 แล้วนะ
เตือนน้องๆ หนูๆ ให้ระวังอย่าทำ
ไม่ใช่อ่ะพี่ มันไม่ใช่อ่ะ!!!
คือพี่เป็นตำรวจ พี่เป็นคน พี่ไม่ใช่หุ่นยนต์ ไม่ใช่เครื่องจักรบังคับใช้กฎหมาย
พี่มีหัวใจ มีวิจารณญาณนี่หว่าพี่
พี่ฟังเรื่องราวทั้งหมด ดูกระทงเด็ก ดูหน้าเด็ก แล้วพี่ไม่ รู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ถูกต้อง เหมือนคนทั้งประเทศรู้สึกเลยเหรอวะพี่
ว่า….เหมือนการหลอกลวงให้ทำของ แล้วขู่ตบทรัพย์!!
ถ้าผมเป็นพี่ตำรวจนะ อย่าว่าแต่จะไม่ไกล่เกลี่ยให้เสีย 5000 เลย
กูจะเรียกไอ้ตัวแทนมานั่งด่า ให้ยกมือไหว้ขอโทษเด็ก แล้วสั่งสอนมันด้วยว่าอย่ามาใช้ลูกเล่นเ-ยๆ แบบนี้ หาแ-กกับเด็กๆในท้องที่กูอีก
มึงทำอีก กูจะจับมึงแทน แล้วไล่ถีบ…ลงจากโรงพักไปด้วย
แทนที่จะเตือนเด็กๆ ให้ระวังอย่าทำ
พี่ตำรวจต้อง เตือนไอ้พวกตัวแทน!!!
ว่า มึงอย่าล่อซื้อ แบบนี้อีก มันคือการใช้ช่องว่างกฎหมายหลอกตบทรัพย์เด็ก มันทุเรศ !!!
ผมฝากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในส่วนกลาง ช่วยดูหน่อยนะครับ ประชาชนด่ากันทั้งเมือง
ฝากพี่ๆ สื่อ พี่ๆ นักกฎหมาย ช่วยดันเคสนี้ ฝากจี้ถามตำรวจชุดจับกุม
จี้ถามบริษัทตัวแทนหน่อย ว่าทำแบบนี้มันได้เหรอวะ
ฝากถึงไอ้ตัวล่อซื้อนะ
มึงรีบออกมาขอโทษเด็กมันซะ
ก่อนที่ทัวร์จะลงมึงมากกว่านี้
มึงอย่าประมาทพลังโซเชียล
หากินแบบนี้ มึงไปคุ้ยขยะแ-ก ยังมีเกียรติซะกว่า !!!”
หอการค้า-สภาทนายโคราช เร่งช่วยเหลือ เล็งรื้อคดี
นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง ที่ปรึกษาประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่าง ที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีคดีแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์กับผลิตภัณฑ์ชุมชนมาแล้วหลายราย ซึ่งอาจจะมาจากความรู้เท่าไม่ถึงของผู้ประกอบการรายย่อย แต่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากเป็นอย่างมาก
ในฐานะรองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และที่ปรึกษาประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา จึงเห็นว่า จะต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าจะไม่ได้ส่งเสริมการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เรื่องการจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ ก็จะต้องมีกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจน
โดยผู้นำจับกุมจะต้องมีหนังสือมอบหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริงก่อน จากนั้นต้องนำเอกสารหลักฐานไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบและนำไปจับกุมในพื้นที่ ไม่ใช่จู่ๆ จะลงพื้นที่ไปเองโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้ กระบวนการดำเนินคดีกับเยาวชนที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี ก็มีกระบวนการขั้นตอนที่แตกต่างกันจากของผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ จึงต้องมีนักสหวิชาชีพร่วมด้วย แต่เท่าที่เห็นจากข่าวไม่ปรากฏว่ามีนักสหวิชาชีพร่วมด้วยเลย
ขณะนี้ได้ประสานไปยังสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาแล้ว เพื่อให้ลงพื้นที่หาข้อมูลต่างๆ อย่างครบถ้วน ว่ากระบวนดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ในส่วนของคดีความนั้น ถ้าผู้เสียหายเป็นคนสั่งให้ทำกระทงที่ผิดลิขสิทธิ์เอง เพื่อที่จงใจจะให้เยาวชนกระทำผิดลิขสิทธิ์ และทำการล่อซื้อ ก็ถือว่าการดำเนินคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการรื้อคดีกันใหม่ทั้งหมด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทนายเดชา ชี้เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ปมจับเด็ก15 ทำกระทง
