รบ.-ตำรวจฮ่องกงประณาม ผู้ประท้วงไม่สนกฎหมาย ใช้ความรุนแรงต่อเนื่อง
สถานการณ์ส่อบานปลาย! จากกรณีการชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นนั้น ล่าสุด สำนักข่าวไชน่า ซินหัว รายงานว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และตำรวจฮ่องกง ประณามพฤติกรรมความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อการจลาจลที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของสาธารณชน การชุมนุมอันมิชอบด้วยกฎหมายบนเกาะฮ่องกงยกระดับเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงอีกครั้งในวันอาทิตย์ (29 ก.ย.) หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงทำลายทรัพย์สินภายในสถานีรถไฟใต้ดิน ก่อกองไฟ และขว้างปาระเบิดน้ำมัน

“ผู้ประท้วงหลายคนรวมตัวกันปิดกั้นถนนหลายสายในย่านคอสเวย์เบย์ หว่านไจ๋ และแอดมิรัลตี ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างร้ายแรง” โฆษกรัฐบาลฮ่องกงกล่าว

“พวกเขาก่อกองไฟหลายจุดและขว้างปาระเบิดน้ำมันลงบนถนน รวมถึงบุกรุกเข้าสถานีรถไฟใต้ดินและสถานีตำรวจมงก๊ก กระทำการข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสถานีรถไฟใต้ดิน และสาธารณชนในพื้นที่ดังกล่าว”
“รัฐบาลฮ่องกงขอประณามกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงที่ไม่เคารพกฎหมายและมีพฤติกรรมบ่อนทำลายความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม” โฆษกกล่าว “ตำรวจจะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอยภัยของสาธารณชน”
แถลงการณ์ของตำรวจฮ่องกงระบุว่าการประท้วงในวันอาทิตย์ (29 ก.ย.) กลายเป็นความรุนแรงและอันตราย เนื่องจากผู้ประท้วงกระทำการล้ำเส้นตำรวจ จุดไฟที่ทางเข้า-ทางออกสถานีรถไฟใต้ดิน และเผาธงชาติ

นอกจากนั้นผู้ประท้วงยังขว้างปาของแข็งใส่รถตำรวจและอาคารรัฐบาล เขวี้ยงระเบิดน้ำมันใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานีตำรวจ และทำร้ายร่างกายผู้คนที่มีมุมมองแตกต่าง ทำให้พวกเขาเหล่านั้นบาดเจ็บสาหัส
“หลังจากประกาศเตือนซ้ำหลายครั้งแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เจ้าหน้าที่จึงเริ่มปฏิบัติการสลายการชุมนุมด้วยวิธีการอันเหมาะสม โดยมีการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง กระสุนถุงตะกั่ว และกระสุนขนาด 40 มิลลิเมตร” แถลงการณ์ระบุ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งจำเป็นต้องยิงกระสุนขึ้นฟ้า เนื่องจากผู้ประท้วงหัวรุนแรงกลุ่มใหญ่ปิดล้อมและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนจนสุ่มเสี่ยงเผชิญภัยคุกคามร้ายแรงถึงชีวิต

“ตำรวจเน้นย้ำว่าจะไม่อดทนกับพฤติกรรมความรุนแรงทุกรูปแบบ” แถลงการณ์ระบุ โดยตำรวจจะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยสาธารณะและนำตัวผู้กระทำผิดไปรับโทษตามกฎหมาย
