กรมอนามัยแนะประชาชน ‘ไหว้พระ-ไหว้เจ้า’ จุดธูปขนาดสั้นลดการเพิ่มฝุ่น

กรมอนามัยแนะประชาชน ‘ไหว้พระ-ไหว้เจ้า’ จุดธูปขนาดสั้นลดการเพิ่มฝุ่น


กรมอนามัย ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันภาคใต้ ลดการจุดธูปไหว้พระหรือไหว้เจ้าครั้งละมาก ๆ ให้เลือกใช้ธูปขนาดสั้นแทน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจนี้ เพื่อลดการเพิ่มฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังคงประสบปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจนี้ คนไทยเชื้อสายจีนจะมีการจุดธูปไหว้เจ้าหรือประกอบพิธีกรรมตามศาลเจ้า รวมถึงการไหว้พระขอพรที่ต้องจุดธูปเป็นจำนวนมาก นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งผ่านความห่วงใยถึงประชาชนในพื้นที่โดยขอความร่วมมือเปลี่ยน มาใช้ธูปที่มีขนาดเล็กหรือสั้นลง เพื่อลดการเพิ่มฝุ่น ซึ่งศาสนสถานเมื่อเสร็จพิธีการควรดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้นและต้องมั่นใจว่าดับสนิท

 

 

นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบริเวณกระถางธูปเป็นประจำเพื่อลดฝุ่นละอองจากควันธูปที่ตกค้าง รวมถึงหลีกเลี่ยงการจุดธูปในบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องแอร์ ห้องที่ไม่มีประตูหน้าต่าง เพราะหากสูดดมเข้าไป อาจทำให้ระคายเคืองตาและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ อาการที่พบบ่อย คือ ตาแห้ง แสบตา น้ำตาไหล จาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก และอาจเกิดอาการปวดศีรษะ เป็นลมหมดสติได้ หากสูดดม เป็นเวลานาน ๆ

“ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังคงต้องติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างใกล้ชิดจากเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยง การสัมผัสควัน และขอความร่วมมือสถานพยาบาล ศูนย์เด็กเล็ก ควรจัดห้องสะอาด ปลอดฝุ่น (Clean Room) เพื่อป้องกันและลดสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่แพทย์ให้คำแนะนำ

 

 

สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีปริมาณค่าฝุ่นสูง ควรสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ และคอยสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะให้รีบไปพบแพทย์” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กรมอนามัยแบน 3 เคมี พาราควอต- คลอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต