วันนี้ (20 ก.ย.62) นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี อดีตหัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการฯ คนแรก และใกล้ชิดกับหมีแพนด้า ทั้ง “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมียมาตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมที่จีนกระทั่งมาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เมื่อปี 2546 หรือที่แฟนคลับแพนด้าเรียกกันว่า “หมอต่อ” ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณี ช่วงช่วงเสียชีวิต ว่า

“ในส่วนสาเหตุของการตาย ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่ก็ต้องรอพร้อม ๆ กับคนไทยและแฟนคลับทุก ๆ คนเหมือนกันเราจะชี้ชัดว่าสาเหตุที่ทำให้ “ช่วงช่วง” ตาย ที่ชี้ชัดชัดเจน ก็ต้องรอผลการชันสูตร ผลการชันสูตรที่จะเชื่อถือได้ที่สุดก็ต้องก็คือต้องมาจากคนกลาง ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็ต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญจีนเอง”
สำหรับในสัญญา MOU หมีแพนด้าระหว่างไทยกับจีน นั้น ในสัญญาระบุว่า หากหมีแพนด้าตัวใดตัวหนึ่งเสียชีวิตโดยปกติแบบธรรมชาติ ก็ไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่หากหมีแพนด้าเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ในสัญญาระบุว่าจะต้องเสียค่าปรับ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในส่วนของสาเหตุการตายที่ระบุใน MOU ก็จะระบุแยกออกเป็นสองด้านหลัก ๆ ก็คือ ตายแบบธรรมชาติ กับตายแบบผิดธรรมชาติ เท่านั้นเอง ตอนนี้ก็ต้องรอว่าผลการชันสูตรจะไปในทางไหน ว่าจะเป็นธรรมชาติ หรือผิดธรรมชาติ

“ที่มีกระแสว่าสาเหตุมาจากการกินไผ่ แล้วไปติดหลอดลมเสียชีวิต นั้นผมคิดว่า ถ้าจะเกิดปัญหาจากการกินไผ่ ก็คิดว่าคงไม่น่าจะรอมาถึง 16 ปี แล้วจากที่หลาย ๆ คนได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า หลินฮุ่ย น่าจะเกิดปัญหาจากการกินไผ่ด้วย ตอนนี้หลินฮุ่ย ก็ไม่ได้เป็นอะไรทุกวันนี้ การที่จะไปสรุปว่า หมีแพนด้าจะเป็นอะไร จากการกินไผ่ โดยความเห็นส่วนตัวจากที่ทำงานมา คิดว่าคงไม่ใช่” นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่โซเซียลแฟนคลับหมีแพนด้าจีน เรียกร้องให้เอาหลินฮุ่ยกลับคืนจีน จริง ๆ แล้วทุกอย่างต้องพิจารณาตามหลักการและเหตุผล ไม่น่าที่จะต้องเอามาโยงกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องขึ้นอยู่ที่ว่า ผลการการชันสูตรซากหมีแพนด้า ช่วงช่วง ออกมาเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงหลินฮุ่ย ต่อไปหรือไม่อย่างไร หากไม่เกี่ยวกัน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาหลินฮุ่ยกลับ ก็ต้องทำตามสัญญา
ทางด้านนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งมายังทางสวนสัตว์เชียงใหม่ ว่าทางฝ่ายประเทศจีน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้จัดคณะผู้เชี่ยวชาญหมมีแพนด้าเดินทางมาอย่างเร่งด่วน และจีนไทยทั้งสองฝ่ายได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันแล้ว ซึ่งจะมีการสรุปให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ทางกงสุลจีน ได้แจ้งมายังทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ว่าทางผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนนั้น ต้องการอิสรระ และพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานครั้งนี้ จึงไม่ขอให้ข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งขอร้องทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ของไทยด้วย และให้มีการออกแถลงการณ์ ให้กับสื่อได้รับทราบถึงความคืบหน้าแทน และหากเป็นเรื่องใหญ่เร่งด่วน ถึงค่อยเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
“ตนคิดว่าจะได้มีการขอสื่อมวลชนงดใช้ห้องประชุมสโมสรหมีแพนด้าในระยะนี้ไปก่อน เพื่อให้ทางผู้เชี่ยวชาญจีนได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และหากมีความคืบหน้า ทางสวนสัตว์ก็จะออกใบแถลงการให้สื่อทราบอย่างต่อเนื่อง” ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวในท้ายสุด
