ผู้เสียหาย20ราย เข้าแจ้งความปอท. ถูกหลอกลงทุนสูญเงิน 397 ล้านบาท อ้าง “พล.อ.” คนดังหนุนหลัง
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.กฤษอนงค์ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกบริษัทรายหนึ่งหลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจ โดยอ้างถึงบุคคลระดับสูงในกองทัพ ผ่านทางโลกโซเชียล รวมตัวกัน 20 ราย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ภิภพ กลมกลึง รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. หลังแจ้งความกับท้องที่แล้วไม่ได้รับความคืบหน้า รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 397 ล้านบาท
โดยหนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พวกตนถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว่ามีบริษัทคู่สัญญาทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนรวมกว่า 17 โครงการ อาทิ การประมูลงานราชการ รับวางบิล, ให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อ และธุรกิจรายย่อย การนำสินค้าเข้าออกประเทศ รวมถึงการซื้อขายเหล็ก คอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ และอสังหาริมทรัพย์ โชว์รูมรถซุปเปอร์คาร์ และยังมีสินค้าหลากหลาย ทั้งอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายเปิดเผยต่อว่า บริษัทดังกล่าวสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการส่งภาพใบประมูลราคาตัวจริงของหน่วยงานรัฐงานประมูลนั้นๆ มาแสดงกับผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังเผยแพร่ข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อหลักและสื่อออนไลน์ ซึ่งพวกตนได้รู้จักเพจนี้ผ่านคนแนะนำต่อๆ กันมาตั้งแต่ปี 2561 ระยะแรกได้เงินปันผลตั้งแต่ 3-15% สำหรับผู้ลงทุนเกิน 1 ล้านบาทจะได้รับใบผู้ถือหุ้น
กระทั่งเดือนกันยายนปีเดียวกัน บริษัทเริ่มเปลี่ยนมาจ่ายค่าตอบแทนเป็นเช็คก่อนจะเป็นเช็คเด้ง จึงไปแจ้งความกับโรงพักท้องที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และ กอ.รมน. แต่พวกตนทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เนื่องจากบริษัทอ้างว่ามีผู้ใหญ่เคลียร์เรื่องให้ พวกตนจึงหลงเชื่อ
นอกจากนี้ เลขาฯคนสนิทของบริษัทยังส่งภาพของนายทหารระดับพล.อ. และข้อความระบุว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลอยู่ แนะนำให้ผู้เสียหายไปถอนแจ้งความแล้วค่อยมาไกล่เกลี่ยคืนเงินกัน ในการนัดอบรมหรือชี้แจงผู้เสียหายแต่ละครั้ง บริษัทดังกล่าวจะเลือกใช้สถานที่หรือหน่วยงานของทหาร โดยเมื่อพวกตนสอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าว ทราบว่าได้ติดต่อขอเช่าสถานที่จริง
ทั้งนี้ เหตุที่ต้องรวมตัวในวันนี้ เพราะล่าสุดบริษัทดังกล่าว กำลังระดมทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม ทำเลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงเครื่องมือแพทย์ จึงไม่ต้องการให้มีความเสียหายเพิ่มเติมอีก
เบื้องต้น ร.ต.อ.ภิภพ อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด หากพบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงจะพิจารณาส่งผู้บังคับบัญชา แต่หากว่าไม่เข้าข่ายจะแนะนำผู้เสียหายดำเนินการต่อไป
ขอบคุณภาพข่าวจาก Facebook : Kamon Yamutai
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
เสี่ยเบนซ์เมาชนตำรวจกองปราบดับ ชดใช้ 45 ล้านบาท