อพวช. เปิด “พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า” โชว์ป่าเขตร้อนสมบูรณ์ที่สุดในโลก 15 มิ.ย.นี้ พบสิ่งมีชีวิต 100 ตัว 50 สายพันธุ์ ไปที่เดียวเหมือนได้ท่องเที่ยวทั่วโลก เปิดให้บริการเต็มรูปแบบเดือน ต.ค.นี้
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า อพวช.จะเปิดพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ที่มีหัวใจหลักคือการนำเสนอหลักคิด วิธีการทรงงานและกระบวนการค้นหาคำตอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อที่จะทดลองระบบให้บริการในวันที่ 15 มิ.ย.ถึงวันที่ 15 ก.ค.2562 ก่อนจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือน ต.ค.นี้ โดยไฮไลท์ที่ อพวช.ตั้งใจนำเสนอ คือ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและอาเซียนหรืออาจจะของโลกก็ได้ โดยเฉพาะการจัดแสดงระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่ให้บรรยากาศและประสบการณ์เสมือนจริงของประเทศไทย รวมทั้งป่าในเขตขั้วโลกเหนือเขตขั้วโลกใต้ เขตทุนดรา ป่าเขตหนาว ทะเลทราย เขตอบอุ่น และเขตป่าฝน ตลอดจนอิทธิพลของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมนั้นๆ ที่จะมาจัดแสดงแบบเสมือนจริงเช่นกัน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แรกๆของโลกที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และสวนป่าหรือพฤกษศาสตร์อยู่รวมในสถานที่เดียวกัน
ผอ.อพวช. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีห้องฉายภาพยนตร์270องศาใหญ่ที่สุดที่จะพาผู้ชมเดินทางไปกับหยาดฝนที่โปรยปรายในป่าฝนเขตร้อนแหล่งพึ่งพาของสิ่งมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ทั้งยังจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตมากกว่า100ตัว ที่มีอิทธิพลต่อสภาวะแวดล้อมกว่า50สายพันธุ์จากพื้นที่ป่าเขตร้อนหลักๆทั่วโลกเรียกได้ว่ารวบรวมมาจัดแสดงมากที่สุดในโลกก็ว่าได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติชวนให้เกิดการตั้งคำถามและทบทวนบทบาทของเราต่อระบบนิเวศเช่นรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือกับกอริลล่านั้นมีความเกี่ยวพันกันมากกว่าที่เราคิด ขณะเดียวกันยังมีการจัดแสดงเขตภูมินิเวศของประเทศไทยที่ถือว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพสูงไม่แพ้ที่ใดในโลก โดยจำลองป่าไม้ที่มีความแตกต่างกัน4แห่งตั้งแต่ป่าดิบบนยอดเขาสูงไปจนถึงท้องทะเล ได้แก่ ป่าดิบเขาป่าเต็งรัง ป่าดิบชื้นและป่าพรุรวมถึงจำลองพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นระบบนิเวศดั้งเดิมของทุ่งรังสิตมาจัดแสดงร่วมอีกด้วย
ผศ.ดร.รวิน กล่าวอีกว่า พิพิธภัณฑ์พระรามเก้าถือว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆตรงที่มีการจำลองสภาพแวดล้อมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์ภายในชีวนิเวศต่างๆทั่วโลกมาจัดแสดงแบบเสมือนจริง ดังนั้นการมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าที่เดียวก็เหมือนได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลกเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ความรู้และความเพลิดเพลินและยังได้มุมมองใหม่ในการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน