ศรีสุวรรณ ค้าน ทบ. ซื้อรถเกราะล้อยาง “สไตรเกอร์” 2.9 พันล้าน อ้างสถานการณ์ยังอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง ไม่เหมาะสม แถมอาเซียนต่างมีนโยบายลดการแข่งขันการสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์กันแล้ว ขอกองทัพเลิกสะสมอาวุธ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง ค้าน ทบ.อนุมัติซื้อ “สไตรเกอร์” ในยุคข้าวยากหมากแพงนี้
ตามที่ปรากฏมีรายงานว่า กองทัพบกได้อนุมัติจัดหารถเกราะล้อยาง M1126 STRYKER จากอัตราสำรองคลังของกองทัพสหรัฐอเมริกาจำนวน 37 คัน (แถม 23 คัน) มูลค่าประมาณ 80 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2,960 ล้านบาท) เพื่อบรรจุในกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแผนการเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยทหารราบ พร้อมยังจะนำเข้าประจำการในหน่วยทหารหน่วยอื่นอีกด้วย ความดังทราบแล้วนั้น
การอนุมัติซื้อรถเกราะล้อยางดังกล่าวไม่มีความเหมาะสม เพราะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ฝ่ายการเมืองยังไม่ได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการอาศัยสถานการณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่มุ่งสนใจไปในการจับขั้วทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อลดข้อครหาหรือจับผิดในกรณีดังกล่าวอย่างน่าละอาย
ถึงกระนั้น การจัดซื้อรถดังกล่าวมีข้อสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตัวของ ผบ.ทบ.หรือไม่ เนื่องจาก ผบ.ทบ. เรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐฯ และฝึกหลักสูตรต่างๆ ของสหรัฐมาจนได้ชื่อว่าเป็น ผบ.ทบ. สไตล์อเมริกัน จนสหรัฐฯให้ที่นั่งทหารไทยไปฝึก ไปดูงานมาโดยตลอด ตั่งแต่ ผบ.ทบ. เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐเคยตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยและ คสช.มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านกระทรวง ตปท. และผ่านอุปทูตสหรัฐประจำประเทศไทย หากแต่มิได้จดจำคำตำหนิ แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศหลายพันล้านบาทไปเป็นเครื่องมือในการสร้างสานสัมพันธ์กัน ซึ่งในอนาคตเราต้องสูญเสียเงินภาษีของประชาชนไปอีกเป็นจำนวนมากกับการสร้าง โรงเก็บ จัดทำสนามฝึก สั่งซื้อชิ้นส่วน การซ่อมบำรุงอีก โดยที่กองทัพไม่เคยบอกประชาชนว่าจะใช้งบอีกเท่าไร
ขณะนี้ในภูมิภาคอาเซียนต่างมีนโยบายลดการแข่งขันการสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์กันแล้ว ต่างมุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจการกินดีอยู่ดีของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะเรื่องปากท้องและการลดความเหลือมล้ำเป็นปัญหาสำคัญของชาติ ซึ่งขณะนี้คนไทยล้วนเผชิญชะตากรรมข้าวยากหมากแพงกันทั้งแผ่นดิน พืชผลทางการเกษตรตกต่ำเป็นประวัติการณ์ หากแต่กองทัพยังกลับมีนโยบายถอยหลังลงคลองไปในยุคสงครามเย็นถวิลหาแต่การซื้ออาวุธ จะมีบ้างไหม สักครั้งที่เปลี่ยนผู้นำเหล่าทัพแต่ละคนแล้ว จะไม่มีการจัดซื้อจัดหาอาวุธมาสะสม ขอให้เริ่มต้นในยุค ผบ.ทบ.คนปัจจุบันได้ไหม หรือให้รอไปจนกว่าจะถึงยุคพระศรีอาริย์ลงมาโปรดกระนั้นหรือ