ชายแดนใต้ระส่ำ สมาคม “ปอเนาะ” ร้องย้ายรองแม่ทัพภาค 4

ชายแดนใต้ระส่ำ สมาคม “ปอเนาะ” ร้องย้ายรองแม่ทัพภาค 4


สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ ขอกองทัพส่งย้ายรองแม่ทัพภาค 4 ออกนอกพื้นที่ ขอสื่อนำเสนอข่าวอย่างเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2562 ณ โรงเรียนบุสตานุดดีน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ นำโดยนายขดดะรี บินเซ็นต์และตัวแทนผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จากจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และพัทลุง กว่า 50 คน ร่วมแถลงการณ์ให้ย้าย พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาคที่ 4 ออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฐานที่ใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เพื่อจะไม่เป็นปัจจัยเอื้อทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามต่อไป และกระทบกระบวนการพูดคุยสันติภาพพร้อมทั้งประกาศฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาต่อสื่อมวลชน และบุคคลต่างๆที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

เนื่องด้วยเมื่อ วันที่ 2 เม.ย. 2562 ทางสื่อมวลชนได้รายงานข่าวกล่าวหาว่าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุจริตเงินอุดหนุนที่รัฐสนับสนุนปีละหลายพันล้านบาท แต่ที่ผ่านมาเม็ดเงินดังกล่าวถูกใช้ไปในทางที่ผิด และบางส่วนถูกใช้สนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เป็นสถานที่บ่มเพาะแนวคิดแบ่งแยกดินแดน เป็นสถานที่คัดเลือกบุคคลเข้าร่วมขบวนการ เป็นสถานที่ฝึกร่างกายก่อนส่งไปฝึก RKK และเป็นสถานที่รวบรวมเงินบริจาคจากสมาชิกขบวนการในพื้นที่ และที่ร้ายที่สุดกล่าวหาจัดการศึกษาไม่ได้คุณภาพ

ในการนี้ทางสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ขอออกแถลงการณ์ดังนี้

1.ขอให้สื่อมวลชน มีจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าวพร้อมทั้งนำเสนอข่าวอย่างรอบด้านเพราะมันเป็นมิติความมั่นคงและจะกระทบต่อกระบวนการสันติภาพ

2.ฟ้องร้องดำเนินคดีทางเเพ่งและอาญาต่อช่อง7 สีและบุคคลต่างๆที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

3. ขอให้หน่วยงานรับผิดชอบให้เข้าตรวจสอบอย่างเป็นธรรมทุกสังกัด ไม่เฉพาะเจาะจงเฉพาะโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ภายใต้กฎหมายไทย และต้องเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นคำสั่งใดที่ไม่เป็นธรรมขอให้ยกเลิกและสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อสั่งคุ้มครองชั่วคราว

4.ดำเนินคดีและสั่งย้ายต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยความมั่นคงที่ใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม(ซ้ำซาก)เพื่อจะไม่เป็นปัจจัยเอื้อทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามต่อไป สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วนในแก้ปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านมิติการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

5. พิจารณาใหม่เรื่องกฎระเบียบของรัฐเกี่ยวเงินอุดหนุนรายหัวที่เหมาะสมกับโรงเรียนเอกชนสอนสอนศาสนาอิสลามซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนสามัญ พร้อมทั้งหลักเกณฑ์ต่างๆเกี่ยวกับเงินเสี่ยงภัยที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของจำนวนบุคคลากรเพราะว่า ความเป็นจริงในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมีการเรียนการสอน 2 หลักสูตร คือ สามัญศึกษาจากปฐมวัยถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และอิสลามศึกษา (หลักสูตรศาสนา) เด็กแต่ละคนเรียนสองหลักสูตร ดังนั้น กระบวนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนจะต้องจ้างบุคลากรทั้งศาสนา สามัญ จึงทวีคูณ 2 เท่าส่งผลให้การบริหารงานโรงเรียนแต่ละโรงจะต้องจ่ายเกือบสองเท่าของโรงเรียนเอกชนปกติที่คิดการอุดหนุนรายหัวเท่ากัน

6.จัดตั้งสภาการศึกษาชายแดนภาคใต้ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกับการจัดการศึกษาแทนที่ที่หรือคู่ขนานกับกระทรวงศึกษาส่วนหน้า