เตือนภัยออนไลน์ ผู้ใข้เฟซบุ๊ก supichaya kanphai ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยเกี่ยวกับบัตรเครดิต โดยระบุข้อความว่า มีเรื่องเดือดร้อนและ #เตือนภัย เกี่ยวกับ #บัตรเครดิต จะเล่าให้ฟัง #KTC #Tripdotcom #KKday
เราโดนคนแอบอ้างใช้ข้อมูลบัตรเครดิต KTC Visa PLatinum ในการจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Trip.com ยอดเงินประมาณ 29000 และอีกยอด 860 USD ที่ไม่ผ่านเพราะเกินวงเงินและ
14 มี.ค. เราเอารถไปซ่อมที่ศูนย์ และลืมบัตรไว้ในรถ เราติดต่อจนท.ศูนย์ให้เก็บไว้ให้ และเราก็บินไปไต้หวันค่ำวันนั้น
17 มี.ค. แม่ไปรับรถและบัตรคืนมา
21. มี.ค. เรากลับถึงไทยตอนเที่ยง ช่วงหัวค่ำมันมี noti ผ่าน app KTCmobile ว่ามียอดใช้จ่ายสองอันนั้น เราโทรไปอายัดบัตรเล่าเรื่องให้ฟัง ทาง KTC ให้กรอกแบบฟอร์มปฏิเสธรายการใช้จ่ายนั้น ขอเวลาตรวจสอบและคืนเงินเข้า credit 55 วันทำการ โดยเราไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน เราขอทราบรายการใช้จ่าย นางบอกว่าเป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่าน Trip.com เราเลยอีเมลล์ไปหา Trip.com ขอทราบกระบวนการการตรวจสอบข้อมูลการจอง
22 มี.ค. Trip.com ตอบกลับว่าต้องใช้เอกสารแจ้งความจากตำรวจนางจึงจะสามารถให้ข้อมูลได้ โดยจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง
28 มี.ค. เราแจ้งความและส่งเมลล์ให้ Trip.com
30 มี.ค. จนท. Trip.com โทรมาจากสนง.ใหญ่ที่จีนว่า นางให้ข้อมูลไม่ได้ และเราเริ่มโวยวายละ คุยกันอยู่เป็นชั่วโมง สุดท้ายนางบอกว่า เนื่องจากนโยบายความปลอดภัยลูกค้า นางสามารถให้ได้แค่ชื่อ (ไม่มีนามสกุล) และเมืองที่ departure นอกจากนั้นนางให้ไม่ได้แม้แต่กับตำรวจหรือทนาย เราบอกนางว่า ตอนจ่ายเงินคุณก็ไม่ตรวจสอบ OTP นี่ก็ห่วยแตกพอละ พอมีปัญหาเรามาขอข้อมูล คุณก็ให้ข้อมูลแบบ useless มาก เราจะไปตามหานาย ก. ไร้นามสกุล ที่มีไฟลท์บินออกจากเมือง ข. ได้ที่ไหน วัน เวลา สายการบิน เลข passport คุณก็ให้ข้อมูลไม่ได้ ทั้งที่คุณมีข้อมูลทุกอย่าง คุณกำลังปกป้องลูกค้าที่เป็นโจร แต่ไม่ให้ความช่วยเหลือเจ้าของบัตรที่เป็นผู้เสียหาย เราไม่ได้ worry เรื่องเงินมาก คุณจะให้เราจ่ายแทนคนอื่นเราก็ทำได้ แต่เราต้องการหาตัวคนที่กระทำความผิด แต่คุณไม่ให้ความร่วมมือ นางเงียบ และได้แต่ตอบว่า ขออภัยค่ะๆๆๆ ระหว่างที่คุยนางเริ่มรู้ว่าเราไม่ยอม ก็ให้อีกคนมาคุยแทน และคนนี้ก็ได้พูดขึ้นมากับเพื่อนว่า ***มันไม่ยอมจบว่ะ*** ในขณะที่เราถือสายฟังอยู่
ล่าสุดนางส่งเมลล์กลับมาแจ้งชื่อ ไม่มีนามสกุล ของคนจองเป็นชื่อภาษาจีน และเดินทางออกจากไทเป #คดีพลิกมาก เพราะเราปักใจเชื่อว่าต้องเป็นคนที่ไทยทำตอนเราลืมบัตรไว้ บัตรนั้นจะมีคนไต้หวันมาใช้ข้อมูลเราได้ยังไง ในเมื่อเราลืมบัตรไว้ที่ไทยตอนไปเที่ยวไต้หวันถูกมะ ละก็มานึกได้ว่าเราใช้บัตรนั้นจองตั๋วรถไฟ HSR ผ่าน #KKday และจอง local train ด้วย ส่วนที่พักมีจองผ่าน booking.com แต่ยกเลิกไป มันเป็นไปได้มั้ยที่จะมีคนที่สามารถ hack ข้อมูลตรงนั้นได้
เราเลยถาม KTC อีกครั้ง KTC บอกว่า ถ้าเป็น hacker เก่งๆก็น่าจะทำได้ แต่เค้าก็ไม่ทราบว่าเป็นช่องทางไหน ปกติแล้วก่อนตัดยอดจะมีการตรวจสอบ OTP แต่บางเว็บไซต์ก็ไม่มีเพื่อความสะดวกรวดเร็วของลูกค้า แต่จะมีการส่ง sms หรือเตือนใน app ว่ามียอดใช้จ่ายมาบอกเรานะ ซึ่งเตือนตอนนั้นยอดมันก็ถูกตัดไปแล้วไง