ลมหนาวรุนแรงกระทบกลุ่มเปราะบาง ยูนิโคล่เดินหน้ามอบเสื้อฮีทเทค 1 ล้านชิ้นทั่วโลก ผ่านโครงการ “The Heart of LifeWear” และส่งต่อความอบอุ่นให้เด็กไทยเข้าถึงยาก หวังช่วยลดผลกระทบสภาพภูมิอากาศอย่างทั่วถึง
เขียนโดย จุฑาทิพย์ สมสุข
ปี 2568 นี้ อุณหภูมิลดต่ำจนสัมผัสได้ แม้ในกลางเมืองที่ปกติร้อนจัด ส่งผลให้พื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทยเผชิญกับความหนาวเย็นที่รุนแรงยิ่งขึ้น ความหนาวไม่ได้เป็นเพียงบททดสอบธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มคนเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กในพื้นที่ชนบท ผู้ไร้บ้าน และกลุ่มผู้ลี้ภัย ที่ยังขาดแคลนเสื้อกันหนาวและเครื่องนุ่งห่มที่จำเป็น หลายพื้นที่ต้องเผชิญอุณหภูมิต่ำจนถึงจุดวิกฤต
ในปีนี้ ยูนิโคล่ แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำระดับโลก จึงร่วมมือกันกับภาคส่วนต่างๆ เป็นตัวกลางช่วยรับบริจาคเสื้อผ้าและส่งต่อ เสริมด้วยโครงการ “The Heart of LifeWear” ด้วยการบริจาคเสื้อฮีทเทค (HEATTECH) จำนวน 1 ล้านชิ้นให้ผู้ที่ขาดแคลนทั่วโลก มอบความอบอุ่นกายใจ สู่ผู้ประสบภัยหนาวในประเทศไทยผ่านมูลนิธิบ้านร่มไทรและมูลนิธิกระจกเงา เพื่อให้ความหนาวไม่กลายเป็นภาระของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
โครงการ “The Heart of LifeWear”
เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ยูนิโคล่ได้เปิดตัวโครงการเพื่อสังคมระดับโลก “The Heart of LifeWear” โดยมอบเสื้อฮีทเทค (HEATTECH) จำนวน 1 ล้านชิ้น เพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ผู้ที่ต้องการทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “What makes life better?” ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมผ่านไลฟ์แวร์ (LifeWear) เสื้อผ้าที่เป็นมากกว่าเครื่องนุ่งห่ม แต่จะช่วยให้คนที่สวมใส่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร?
สำหรับในประเทศไทย ยูนิโคล่สานต่อโครงการด้วยการมอบเสื้อฮีทเทค (HEATTECH) ไอเทมคอยดูดซับความร้อนและให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำนวน 15,000 ตัว ให้กับมูลนิธิบ้านร่มไทรและมูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปส่งต่อความอบอุ่นแก่ผู้ประสบภัยหนาวในภาคเหนือ ณ โรงเรียนบ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา และยังคงต้องการความช่วยเหลือ โดย มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ พร้อมด้วยทีมพนักงานจิตอาสา ได้เดินทางไปมอบเสื้อฮีทเทคถึงมือ และส่งต่อเสื้อผ้าที่ถูกบริจาค คัดแยก และซักล้างอย่างสะอาด ให้ทุกคนสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ส่วนเสื้อผ้าที่ถูกนำมาบริจาคและไม่สามารถใช้การได้นั้น ก็ถูกนำไปหมุนเวียนเป็นพลังงานเชื้อเพลิงต่อไป
ส่งต่อพลังของเสื้อผ้า
มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) เปิดเผย ยูนิโคล่ ประเทศไทย สานต่อโครงการ The Heart of LifeWear ด้วยการส่งมอบ ฮีทเทค ทั้งหมด จำนวน 15,000 ชิ้น ให้แก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ห่างไกล สำหรับการส่งมอบฮีทเทคผ่านมูลนิธิบ้านร่มไทร เพื่อความอบอุ่นแก่ผู้ที่อยู่ห่างไกลใน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและอยู่บนดอย ได้เริ่มส่งมอบตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา และในเดือนมกราคม 2568 ทางยูนิโคล่ ได้ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านเหมืองแดง ต.แม่สาย จ.เชียงราย
“ในการส่งมอบฮีทเทคให้แก่ผู้ที่ต้องการและได้รับผลกระทบอุทกภัยในปีที่ผ่านมา ในวันนี้ได้มีการมอบทั้งฮีทเทคและเสื้อผ้าแก่เด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ เพื่อมอบรอบยิ้มและความอบอุ่นให้กับเด็กๆ ในพื้นที่ สำหรับ ยูนิโคล่ ประเทศไทย เชื่อว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการส่งต่อพลังแห่งเสื้อผ้าให้แก่ผู้ต้องการอย่างแท้จริง อันเป็นพันธกิจหลักของยูนิโคล่ในการช่วยเหลือสังคมและชุมชนต่างๆ ทั่วโลก”
ช่วยเหลือผู้เปราะบางทั่วโลก
มร.โคจิ ยาไน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด (บริษัทแม่ของยูนิโคล่) กล่าวถึงโครงการ The Heart of LifeWear ว่าเป็นความมุ่งมั่นของยูนิโคล่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในชีวิตของผู้คนที่ประสบปัญหาจากความขัดแย้ง การกดขี่ข่มเหง หรือภัยธรรมชาติ โครงการนี้ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงเด็กและผู้ประสบภัยในพื้นที่ยากลำบาก โดยการมอบเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ตามสภาพอากาศในพื้นที่ เช่น ฮีทเทค (HEATTECH) สำหรับเพิ่มความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว และแอริซึ่ม (AIRism) ที่ช่วยระบายอากาศในพื้นที่ร้อนชื้น
“ทุกวันนี้ มีผู้คนมากมายที่ประสบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ไม่ได้เป็นไปตามความตั้งใจหรือความต้องการของตนเอง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความขัดแย้ง การกดขี่ข่มเหง หรือภัยธรรมชาติ ไม่มีใครต้องการกลายเป็นผู้ลี้ภัย หรือใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย โครงการระดับโลกล่าสุดของยูนิโคล่ ในชื่อ The Heart of LifeWear มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับชีวิตของผู้คนให้มากที่สุด โดยเฉพาะกับผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมชีวิตที่ดีและสะดวกสบายมากขึ้นให้กับผู้คนทั่วโลก แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม”
ให้ความฝันแข็งแกร่ง ควบคู่ร่างกายที่อบอุ่น
ภายในงานที่จัดตรงกับวันเด็ก ที่ 11 มกราคม 2568 ครั้งนี้ ได้เห็นถึงความฝันของเด็ก ๆ แต่ละคน ถ่ายทอดออกมาผ่านรูปวาดและเขียนลงบนกระดาษรูปหัวใจ ว่าเมื่อโตแต่ละคนอย่างประกอบอาชีพ อยากทำอะไร อาทิ อยากเป็นนักฟุตบอล อยากเป็นหมอ อยากเป็นคุณครู อยากเป็นคนที่ดูแลครอบครัวที่ดีได้, พระ, ยูทูบเบอร์, นักกีฬา, พยาบาล, นักเขียน, เจ้าของร้านโทรศัพท์ อีกทั้งยังมีหัวใจนึกถึงพี่ ๆ ทีมงาน ส่งมอบความสุขกลับมาผ่านตัวหนังสือ ทั้งคำขอบคุณและคำอวยพร
“ขอบคุณที่มาแจกเสื้อครับ”
“ขอให้ปีนี้มีความสุข”
“หนูชอบวันเด็กสนุกมาก”
“ขอให้พี่ ๆ มีความสุขนะครับ”
นอกจากความอบอุ่นที่ถูกส่งต่อผ่านเสื้อผ้าแต่ละชิ้น จะช่วยสร้างร่างกายที่แข็งแกร่ง และกลายเป็นส่วนหนึ่งให้เด็ก ๆ มุ่งหน้าไปสู่ความฝัน จินตนาการ รวมถึงสิ่งที่อยากทำในวันข้างหน้า โดยลดอุปสรรคที่อาจขัดขวางโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับพวกเขาและสังคมในวันข้างหน้า