สื่อโซเชียล ภัยร้ายทำลายจิตใจเยาวชน สังคมบูลลี่ ที่มาออสเตรเลียออกกฎหมายแบน

สื่อโซเชียล ภัยร้ายทำลายจิตใจเยาวชน สังคมบูลลี่ ที่มาออสเตรเลียออกกฎหมายแบน

วิพากษ์ ออกฎหมายแบนสื่อโซเชียล ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานโซเชียลมีเดีย ปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ผลกระทบจากสังคมบูลลี่ ออกสื่อโซเชียล กดดันเยาวชนอ่อนไหว สุขภาวะจิตใจย่ำแย่ รัฐบาลออสเตรเลีย เปิดศึกกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่โซเชียล

 

 

ออสเตรเลียได้ออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็กและสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ 

โดยมีกำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Meta (เจ้าของ Instagram และ Facebook) และ TikTok ต้องป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงแพลตฟอร์มของตน หรืออาจเผชิญกับค่าปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1,104 ล้านบาท) การบังคับใช้กฎหมายจะเริ่มในเดือนมกราคมปีหน้า

 

 

พ่อของเด็กที่ได้รับการบลูลี่ ออกมาประณามสังคมโซเชียล คร่าชีวิตลูก

 

 

สังคม บูลลี่ ชนวนผู้ปกครอง

ต้องปกป้องการบริโภคสื่อโซเชียล

คิร่า เพนเดอร์แกสต์ ผู้สอนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ ผู้ก่อตั้งบริษัท Safe on Social  พูดคุยกับวัยรุ่นหลายพันคนในแต่ละปี และเธอก็เห็นการกระทำต่าง ๆ ที่เด็กทำออนไลน์ เช่น การส่งข้อความ การกลั่นแกล้ง และการขู่กรรโชกทางเพศในแต่ละวัน เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายเมื่อต้องได้รับการบอกเล่าประสบการณ์เลวร้ายของเด็กอายุ 12 และ 13 ปี ที่ต่างต้องได้ยินและรับคำด่าทอเกลียดชัง ข้อความดูถูก ในห้องเรียน 

 

 

ซ้าย ชาร์ลอตต์ โอไบรอันฆ่าตัวตายเมื่อเดือนกันยายน ขวา เอลลา แคทลีย์-ครอว์ฟอร์ด เสียชีวิตหลังจากถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งทางออนไลน์

 

 

เธอได้รับการจองให้พูดคุยสามครั้งที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย แต่ไม่นานหลังจากเริ่มการบรรยายครั้งแรก กลุ่มเด็กผู้ชายก็เริ่มตะโกนดูถูกผู้หญิงในภาพที่ปรากฏในสไลด์ของเพนเดอร์แกสต์ ซึ่งเป็นคำดูถูกที่คุ้นเคยที่ได้รับอิทธิพลจากโลกออนไลน์ที่มีทัศนคติชังผู้หญิง

ในระหว่างการบรรยายที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเริ่มตะโกนดูถูกผู้หญิงในภาพสไลด์ที่เธอแสดง ครูพยายามห้ามพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถทำได้จนกระทั่งเด็กหญิงคนหนึ่งในแถวหน้าได้ใช้พูดที่หยาบคาย ทำลายภาพลักษณ์ของเพนเดอร์แกสต์ จนทำให้เธอหนีออกจากห้องไปในสภาพน้ำตาคลอ

“ฉันไม่เชื่อเลยว่าฉันกำลังร้องไห้ในวิดีโอในตอนนี้” เธอกล่าวในวิดีโอเซลฟี่ที่ถ่ายหลังจากนั้นไม่นานในรถของเธอ นี่คือสิ่งที่ฉันรู้ว่ามันต้องเปลี่ยนแปลง” 

เพนเดอร์แกสกล่าวในฐานะ บริษัท Safe on Social มีความเชี่ยวชาญเสียงด้านการฝึกอบรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ได้ออกมาสนับสนุนการดูแลสุขภาพจิตเยาวชนด้วยการห้ามใช้โซเชียลมีเดียสำหรับเด็ก 

“หลังจากที่ได้โต้แย้งทุกข้อจากอันตรายบนโซเชียล  ฉันคิดว่า ทำไปเถอะ ห้ามมันไปเลย” 

ทั้งนี้การที่รัฐบาลออสเตรเลียหวังที่จะผ่านกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลบบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น Snapchat, TikTok, Facebook, Instagram, Reddit และ X ออกจากอุปกรณ์ของเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี หากกฎหมายนี้ผ่าน บริษัทโซเชียลมีเดียจะต้องเผชิญกับค่าปรับเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียหากไม่สามารถป้องกันเด็กจากการใช้บริการของพวกเขาได้

มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างมาก โดยเด็กหญิงสองคนที่เสียชีวิตจากการกลั่นแกล้งออนไลน์ ชาร์ล็อตต์ โอไบรอัน และเอลลา แคทลีย์-ครอว์ฟอร์ด ทั้งคู่มีอายุ 12 ปี และถูกกลั่นแกล้งผ่าน Snapchat ครอบครัวของพวกเธอได้เข้าร่วมแคมเปญเรียกร้องให้มีการห้ามใช้โซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

ในเดือนนี้ พวกเขาได้เดินทางไปที่แคนเบอร์ราเพื่อยื่นคำร้องต่อรัฐบาล โดยมีผู้ลงชื่อสนับสนุนมากกว่า 124,000 คน เพื่อขอขึ้นอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียจาก 13 ปี เป็น 16 ปี 

 

 

 

 

นักจิตวิทยาหนุนแบนโซเชียล 

ปิดกั้นวัฒนธรรมการสื่อสารแก้ไขความขัดแย้งในโลกความจริง 

ดร. แดเนียล ไอน์สไตน์ นักจิตวิทยาคลินิก กล่าวว่า โรงเรียนต่าง ๆ กำลังเผชิญปัญหาการโต้ตอบออนไลน์ที่เกิดขึ้นนอกเวลาการเรียน ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา

“ครูต้องรับมือกับวัฒนธรรมที่ถูกทำลายไปจากโซเชียลมีเดียแต่ขณะเดียวกัน” 

เขาสนับสนุนการห้ามใช้โซเชียลมีเดีย โดยเชื่อว่าโทรศัพท์และการแชทกลุ่มกำลังแทนที่การโต้ตอบแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับคนอื่นและการแก้ไขข้อขัดแย้งในชีวิตจริง

 

 

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแอนโธนี อัลบาเนเซ โพสต์ข้อความถึงผู้ปกครองบนอินสตาแกรม

 

 

ผู้นำทางการเมืองจุดยืนเดียวกัน 

ผลักดันให้ห้ามใช้โซเชียลมีเดีย

การเห็นพ้องต้องกันระหว่างพรรคการเมืองหลักในออสเตรเลียนั้นเป็นเรื่องที่หายาก แต่ในกรณีการแบนโซเชียล ทุกคนกลับมีจุดยืนที่เป็นหนึ่งเดียว นั่นคือ การห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานโซเชียลมีเดีย

พรรคฝ่ายค้านไลเบอรัลได้เสนอข้อกำหนดอายุในการใช้โซเชียลมีเดียในเดือนมิถุนายน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี แอนโธนี อัลบานีส และผู้นำรัฐและดินแดนทั้งหมด นายกรัฐมนตรีกล่าวในวิดีโอที่โพสต์บน Instagram 

 “โซเชียลมีเดียไม่ได้นำมาซึ่งสังคมที่ดีขึ้น มันกำลังทำร้ายเด็ก ๆ ของเรา และฉันขอเรียกร้องให้หยุดมัน”

ดานี เอลาชี ซึ่งเคยอนุญาตให้ลูกสาวใช้สมาร์ทโฟนเก่าตอนเธออายุ 10 ปี ให้ความเห็นว่า 

 “ไม่นานหลังจากนั้น โทรศัพท์มือถือเริ่มครอบงำชีวิตของเธอ” 

นั่นทำให้เขาและภรรยาได้ก่อตั้งองค์กรชื่อ เฮดส์อัพ อัลไลแอนซ์ (Heads Up Alliance) เพื่อกระตุ้นให้พ่อแม่คนอื่น ๆ ชะลอการให้สมาร์ทโฟนกับลูก ๆ ความเชื่อของเอลาชีว่าสื่อสังคมมีเดียนั้นเป็นภัยต่อเด็กได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์ของผู้ปกครองคนอื่น ๆ ที่เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้น

“ไม่มีข้อสงสัยว่าโซเชียลมีเดียทำร้ายเด็ก ๆ มันทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองและบั่นทอนพัฒนาการทางสังคม”

 

 

ฝั่งคัดค้าน ระบุ เป็นประเด็นการเมือง 

อย่างไรก็ตาม ผู้วิจารณ์ต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการนี้ โดยกล่าวว่ากฎหมายนี้ถูกออกแบบอย่างเร่งด่วนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้เด็กที่ฝ่าฝืนไปพบกับสิ่งที่เป็นอันตรายในอินเทอร์เน็ตมากขึ้น 

หลายผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าการห้ามใช้โซเชียลมีเดียอาจเป็นการตอบสนองที่ไม่เหมาะสมต่อปัญหานี้ ในเดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 140 คนได้ลงนามในจดหมายถึงรัฐบาล โดยระบุว่าการห้ามจะทำให้บริษัทเทคโนโลยีขาดแรงจูงใจในการพัฒนาวิธีการใหม่เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ออนไลน์

โดยทางคณะกรรมการสอบสวนโซเชียลมีเดียในออสเตรเลียรายงานว่า ไม่เห็นด้วยกับการห้าม แต่แนะนำให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้แพลตฟอร์มดิจิทัลอยู่ภายใต้การควบคุมของออสเตรเลียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการออกแบบกฎหมาย

อแมนดา เธิร์ด ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์วิจัยเยาวชนที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ กล่าวว่าสำหรับเด็กหลาย ๆ คน การเข้าถึงโซเชียลมีเดียตั้งแต่อายุ 13 ปีถือว่าเหมาะสม แต่อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการห้ามโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต

เธอเชื่อว่าการเรียกร้องให้ห้ามโซเชียลนั้นมีแรงจูงใจจากปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ จากความเกี่ยวข้องของพรรคการเมืองหลักสองพรรคที่สนับสนุนการห้ามกับการเลือกตั้งในปีหน้า

 

 

ไมเคิล มิลเลอร์ ประธานบริหารของ News Corp Australasia กล่าวต่อ National Press Club ในเมืองแคนเบอร์ราในเดือนมิถุนายน

 

 

ความไม่พอใจจากสื่อท้องถิ่น 

Social Media เผยแพร่ข่าวฟรีโดยไม่จ่ายเงิน  

นอกจากนี้ นิวส์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการห้ามโซเชียล เป็นกลุ่มที่มีประเด็นปัญหากับ Meta เจ้าของ Facebook และ Instagram ที่ประกาศหยุดจ่ายเงินให้กับผู้ให้บริการข่าวในออสเตรเลีย

ก่อนหน้านี้ ไมเคิล มิลเลอร์ ประธานบริหารของนิวส์ คอร์ป ได้กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการให้ Meta จ่ายเงินชดเชยถึงผลกระทบ  และริเริ่มแคมเปญ ‘ปล่อยให้พวกเขาเป็นเด็ก’ (Let Them Be Kids) เพื่อเล่าถึงผลกระทบที่โซเชียลมีเดียมีต่อเด็ก ๆ และผลักดันให้มีกฎหมายห้ามใช้งานสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

The Courier Mail ซึ่งเป็นสื่อในเครือของนิวส์ คอร์ป ได้รายงานว่าแคมเปญนี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่อเยาวชน และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎหมายครัั้งใหญ่ในออสเตรเลีย 

 “เราไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ให้ถูกกลั่นแกล้งได้” 

 

 

เบื้องหลังข้อถกเถียงร้อนระอุของผู้สนับสนุน และผู้ต่อต้าน 

การอภิปรายเกี่ยวกับกฎหมายนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ สมาชิกวุฒิสภาแสดงความเห็นเกี่ยวกับความท้าทายในการ

ทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมีเจตนาดี ในขณะที่ผู้นำทางการเมืองบางราย สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย โดยเชื่อว่าโซเชียลมีเดียกำลังทำร้ายเด็ก ๆ 

ในช่วงการอภิปราย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างคิร่า เพนเดอร์แกสต์ ได้ยกประเด็นว่าถ้ากฎง่าย ๆ สามารถปกป้องเด็กให้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัวของพวกเขา มันก็คุ้มค่า

ในที่สุด กฎหมายนี้ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ในระดับโลกในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยี ที่มุ่งเน้นการปกป้องเด็กจากอันตรายบนโลกโซเชียลมีเดีย

อีลอน มัสก์ เจ้าของ X (เดิมคือ Twitter) ได้วิจารณ์ว่ากฎหมายนี้เป็นการแทรกแซงจากรัฐบาลที่มากเกินไป ขณะที่ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Snapchat และ Instagram ได้แสดงความมุ่งมั่นในการจัดการกับปัญหาการกลั่นแกล้งออนไลน์ โดยส่งเสริมให้ผู้ใช้งานรายงานและบล็อกผู้กระทำผิด

 

 

 

 

สาระสำคัญของกฎหมาย และผลกระทบจากการใช้กฎหมาย

-กำหนดอายุขั้นต่ำ กฎหมายนี้จะทำให้ออสเตรเลียเป็นกรณีศึกษาของประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการออกกฎหมายเพื่อจำกัดอายุการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในเยาวชน

-การเข้าถึงที่ต้องได้รับอนุญาต เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีจะไม่สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้หากไม่มีการอนุญาตจากผู้ปกครอง ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายในบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และบางรัฐในสหรัฐอเมริกา

-การสนับสนุนจากพ่อแม่  กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ถึง 77% ตามการสำรวจ แม้จะมีการต่อต้านจากกลุ่มที่ปกป้องสิทธิส่วนบุคคลและสิทธิเด็กบางกลุ่ม

– ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: มีกังวลว่ากฎหมายนี้อาจทำให้ความสัมพันธ์ของออสเตรเลียกับสหรัฐอเมริกาตึงเครียด โดยเฉพาะกับอีลอน มัสก์ เจ้าของ X ที่มองว่าการห้ามนี้เป็นการควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

-การปฏิบัติตามกฎหมาย: ทั้ง Meta และ Snapchat ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายนี้ในออสเตรเลีย แต่มีข้อกังวลเกี่ยวกับวิธีการบังคับใช้

– ผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง  กลุ่มสนับสนุนเยาวชนและนักวิชาการเตือนว่าการห้ามนี้อาจทำให้เด็กบางกลุ่มที่เปราะบาง เช่น กลุ่ม LGBTQIA และเด็กที่ย้ายถิ่นฐาน ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายช่วยเหลือ

– ความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายนี้ยังก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการตรวจสอบอัตลักษณ์ดิจิทัลของผู้ใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบจากภาครัฐ

 

ที่มา: https://www.reuters.com/technology/australia-passes-social-media-ban-children-under-16-2024-11-28/

https://edition.cnn.com/2024/11/23/australia/australia-debate-social-media-ban-intl-hnk-dst/index.html?cid=ios_app