การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับชีวิตและความหมายที่แท้จริงของการมีอยู่ โดยการศึกษาศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ (Spiritual) ทำให้เราเข้าใจตนเองและความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Spiritual หรือ “จิตวิญญาณ” คือการเชื่อมโยงระหว่างตัวตนภายในกับพลังงานหรือพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าในจักรวาล ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ เช่น ความรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หรือความรู้สึกถึงสิ่งที่สูงกว่าความเป็นมนุษย์ ความเชื่อในจิตวิญญาณนั้นมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับศาสนา หรือปรัชญาชีวิตของแต่ละคน แนวคิดของ บีบี นันทนา บุนนาค Image&Lifestyle Coach The manner of Living ศึกษาตัวเอง และเรียนรู้แนวทางการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นองค์ประกอบสำคัญจะต้อง มีความเข้าใจในจิตวิญญาณจะช่วยให้คนมีมุมมองที่ลึกซึ้งกว่าแค่การดำรงชีวิตในเชิงกายภาพ แต่จะต้องตั้งคำถามกับการใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความหมายของโลกใบนี้
ทำไมคนเราควรรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ?
- การค้นพบตัวตนที่แท้จริง: การเข้าใจและตระหนักถึงจิตวิญญาณช่วยให้เราเห็นคุณค่าที่แท้จริงของตัวเอง ไม่ใช่แค่ในแง่ของสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราทำ แต่ในแง่ของความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจและความเชื่อมโยงกับสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเรา
- การพัฒนาจิตใจ: การฝึกฝนการตระหนักรู้ในจิตวิญญาณสามารถช่วยให้เราเผชิญกับปัญหาในชีวิตด้วยความสงบ และสามารถหาทางออกในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีกว่า
- การค้นหาความหมายชีวิต: ความเข้าใจในจิตวิญญาณช่วยให้เราเห็นว่าชีวิตไม่ได้เป็นแค่การมองหาความสำเร็จทางกายภาพหรือวัสดุ แต่เป็นการเดินทางเพื่อค้นพบความหมายที่ลึกซึ้ง
- การเชื่อมโยงกับสิ่งที่สูงกว่า: การรู้จักจิตวิญญาณสามารถช่วยให้เรารู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับธรรมชาติหรือพลังงานที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งสามารถนำมาซึ่งความสงบสุขภายในจิตใจ
การรู้จักจิตวิญญาณจึงเป็นการเดินทางไปสู่การรู้จักตัวเองในแง่มุมที่ลึกซึ้งและสอดคล้องกับการมีชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญและการตั้งคำถามกับชีวิต
บีบี นันทนา บุนนาค Image & Lifestyle Coach The manner of Living ได้เผยมุมมอง การสูญเสียคุณแม่ซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ได้ลาจากไปด้วยโรคมะเร็งและจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตและการตั้งคำถามกับตนเองความหมายของโลกใบนี้
“เมื่อ 4 ปีที่แล้ว บีบีเสียคุณแม่จากโรคมะเร็ง เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตค่ะ วาระท้ายที่สุด 6 เดือนสุดท้ายก่อนคุณแม่จากไปได้คุยกันนานมาก เพราะช่วงที่เขาเสียแล้ว มันก็เป็นช่วงโควิดที่การบินไทยเขาต้องการคัดคนออก จึงตัดสินลาออก แล้วตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ามันเป็นช่วงที่เหมือนโลกมันตั้งใจจะเขย่าอยู่แล้วเขย่าคนให้ตื่น ช่วงนั้นคนตื่นเยอะมากซึ่งเรารู้เลยว่าเราคือระลอกนั้น มันเป็นระลอกที่เหมือนมันจะปลุกคนให้ตื่นแล้วเริ่มตั้งคําถามกับตัวเองเหมือนเด็กสมัยนี้”
นำไปสู่การศึกษาเรื่อง จิตวิญญาณ (spiritual) และคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่ง นันทนา บุนนาค ค้นพบว่าแท้จริงแล้วมนุษย์คือจิตวิญญาณที่มามีประสบการณ์ในโลก และเห็นว่าระบบทุนนิยมเป็นเสมือน “เมทริกซ์” ที่กดดันให้คนวนเวียนในวงจรเดิม ๆ จึงเชื่อว่าการพัฒนาตนเองและการตื่นรู้จะช่วยหลุดพ้นจากระบบนี้ได้
“เราไม่ใช่มนุษย์ แต่เราคือจิตวิญญาณที่ลงมาเป็นมนุษย์เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์”
นันทนาเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตหลังจากสูญเสียคุณแม่และช่วงโควิด ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต โดยมองว่ามนุษย์คือจิตวิญญาณที่มาประสบการณ์เพื่อเรียนรู้และเติบโต คำสอนของพระพุทธเจ้าและวิพากษ์ระบบทุนนิยมเป็นแรงบันดาลใจในการค้นหาคำตอบและหลุดพ้นจากวงจรชีวิต
ไม่ได้เหนื่อย เพียงแต่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
การทำหน้าที่ของตนเอง การเต็มที่กับการทำงานในบางครั้งไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่การใช้ชีวิตแบบวนลูปทำให้ตัวเราไม่มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต เหมือนเป็นเพียงเครื่องจักรที่มีกลไกในการทำงานที่ใส่ชุดคำสั่งและดำเนินตามมัน นันทนา บุนนาค ได้กล่าวว่า
“บีบีรู้สึกเหนื่อยมั้ยมันไม่ได้เหนื่อย แต่รู้สึกมันไม่มีเป้าหมาย ข้างในเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันไม่ใช่แต่ไม่รู้ว่าอะไร แต่แล้วยังไงต่อ เราเซิร์ฟความสุข เราทําตามหน้าที่ เราทำดีที่สุด คือมันเหมือนข้างในเราเหมือนมันมีอะไรบางอย่างที่บอกเราว่าแบบ what’s next เดินมาถึงวันนี้ถึงเริ่มรู้จริง ๆ”
ตนรู้สึกเหมือนชีวิตขาดเป้าหมาย แม้จะทำตามหน้าที่และพยายามให้ดีที่สุด แต่ข้างในรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ จนกระทั่งเริ่มค้นพบตัวเองและคำตอบของชีวิต
ปัญหาของคนยุคนี้คือการ Burnout และ Lost Purpose
การตามหาเป้าหมายของชีวิต การตั้งคำถามว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร แล้วเราอะไรให้กับโลกใบนี้ได้บ้าง คนในยุคสมัยนี้ยังตั้งคำถามกับตนเองอีกมาก และที่มากไปกว่านั้นคือการที่ไม่ได้สามารถรับมือกับการบอบช้ำทางจิตใจ (Trauma) ส่งผลกระทบต่อจิตใจและเป็นอีกหนึ่งสามารถที่ทำให้คนยุคนี้ ภาวะหมดไฟ (Burnout) กันได้ง่าย ถึงอย่างนั้นหากมีการแนะนำทางที่ดี ก็อาจจะช่วยให้คนยุคนี้ได้มีแสงในการเดินตามทางมากขึ้น นันทนา บุนนาค เผยว่า
“บีบีคิดว่ามันเหมือนกับว่าเขาสามารถที่จะเป็น แรงบันดาลใจ (inspiration) ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้มันเหมือนกับว่าสิ่งที่เราทําอะมันคือการทิ้ง inspire คนให้ตื่นแล้วคนที่ตื่นคนนั้นก็จะต้องมาเป็นเราในคนต่อ ๆ ไปเป็นสิ่งที่รู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ดีงามที่สุดที่เราจะทิ้งเอาไว้ได้ มันจะช่วยคนได้อีกเยอะมาก และอย่างงานไลฟ์โค้ช ที่บีบีทําอะมันก็ช่วยไปกะเทาะ trauma ใครหลาย ๆ คน เพราะ trauma พวกนี้มันเกิดจากความกลัว แล้วคนพวกนี้ก็เผลอทําร้ายคนอื่น แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเขาสามารถฮีลแทนที่เค้าจะทําร้ายคนอื่น เขาจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้น”
Burnout คือจุดกำเนิดของการที่เราไม่สามารถทำในสิ่งทีตรงกับปัญหา (Purpose) ของเรา
“เพราะว่ามันอะอยู่ในยุคที่พ่อกับแม่เอา Trauma ตัวเองไปฝากไว้กับลูก เอาความหวังของตัวเองที่ตัวเองทําไม่สําเร็จตอนตัวเองเป็นเด็กไปทิ้งไว้ให้ลูก แล้วลูกมันก็ทําเพียงเพราะมันอยากได้ความรักจากพ่อแม่ แต่ไม่ได้อยากทําสิ่งนั้นจริง ๆ เพราะฉะนั้นไอปัญหา Burnout เนี่ยที่บีบีมองเห็นในอนาคต คือเด็กมันจะ Burnout เร็วมาก แล้วถ้าพ่อแม่ไม่พยายามทําความเข้าใจเรา มันก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาในอนาคตเหมือนพวกเราในวัยหนึ่ง”
และการดูแลตนเองหาก Trauma โดยนันทนาเผยเพิ่มเติมว่า
“เริ่มหันกลับไปสู่ธรรมชาติ เช่น การไปอยู่กับต้นไม้และนั่งสมาธิ เพราะรู้สึกว่าในเมืองมันเต็มไปด้วยพลังงานที่ไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นจริง ๆ เราคือธรรมชาติและเราควรกลับไปสู่ต้นกำเนิดของเรา เรื่องอาหารก็สำคัญ เพราะมันเป็นพลังงานให้กับร่างกาย และในเมืองมันอาจจะหาทานได้ยาก แต่ถ้าเราต้องการเริ่มต้นดูแลตัวเอง เราก็ต้องคิดถึงสิ่งเหล่านี้”
การเป็นแรงบันดาลใจและช่วยเยียวยาผ่านการเป็นไลฟ์โค้ชสามารถทำให้คนตื่นรู้และหลุดพ้นจาก trauma ที่เกิดจากความกลัว ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจและไม่ทำร้ายกันอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมองว่าในยุคปัจจุบัน พ่อแม่มักถ่ายทอด trauma และความหวังที่ไม่สำเร็จไปให้ลูก ทำให้เด็กทำสิ่งที่ไม่ต้องการเพียงเพื่อขอความรักจากพ่อแม่ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหา Burnout ในอนาคต
การศึกษาในปัจจุบันยังจำเป็นอยู่จริง ๆ หรือ?
ระบบการศึกษาอาจล่มสลายในอนาคต เพราะเด็กมองว่าไม่จำเป็นต้องเรียนตามกรอบเดิม ๆ เพื่อตอบสนองโลกของนายทุน แต่หันไปสร้างอาชีพใหม่ ๆ เช่น การขายของออนไลน์ตั้งแต่อายุยังน้อย นันทนา กล่าวว่า
“เด็กจบใหม่ตกงานเยอะมากแล้วหลงทางมาก เพราะว่าหนึ่งเขาไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่เขาเรียนมา สองคือสุดท้ายโลกของนายทุนก็ไม่ได้ จัดหา (provide) สิ่งที่แบบอ่ะลองอ่ะไปกับการศึกษาเลยอ่ะซึ่งตอนนี้มันเลยกลายมาว่า การเริ่มทำงานเป็นที่แรก (First Jobber) ก็เลย ทุกข์ทรมาน (suffering) มาก และคือจุดกําเนิดที่มันจะเริ่มมานั่งคิดพิจารณาเราว่าเด็กรุ่นถัดถัดไปที่มันเหมือนเห็น First Jobber ในรุ่นนี้มันจะเห็นแล้วว่าแบบฉันต้องเรียนหนังสือเหมือนเธอ ฉันไม่มีงานทํา แล้วฉันจะเรียนไปเพื่ออะไร”
เด็กจบใหม่จำนวนมากกำลังเผชิญกับปัญหาการตกงานและความหลงทาง เนื่องจากการศึกษาไม่ตอบโจทย์โลกของการทำงาน และระบบนายทุนไม่ได้เอื้ออำนวยและสนับสนุนการพัฒนาความสามารถของพวกเขา ส่งผลให้เด็กยุคต่อไปเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสำคัญของการศึกษาและการหางานมากขึ้น
ความสำคัญของ Spiritual และการพัฒนาตนเอง
Spiritual หรือการพัฒนาจิตวิญญาณกำลังเป็นกระแสและขยายวงกว้าง โดยมีแนวโน้มว่าเรื่องนี้จะได้รับการพูดถึงในสื่อและองค์กรมากขึ้น โดยผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการมูเตลู เช่น บูชาพระพรหม เพื่อเพิ่มพลังบวกและดึงดูดความสำเร็จในชีวิตและการงาน
ความสนใจเรื่อง Spiritual ในรูปแบบที่เชื่อมโยงกับความเข้าใจตัวตน และพัฒนาศักยภาพตัวเองจากภายในจะถูกจำกัดในบางกลุ่ม ทำให้ยังไม่แพร่หลายไปสู่คนทั่วไปมากเท่าาที่ควร หากขยายแนวความคิดนี้ให้กัวคนรุ่นใหม่ จะช่วยสร้างพลังในวงที่กว้างขึ้น
นันทนา บุนนาค มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์และความเป็นไปในเชิงจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฮีลตัวเอง การสร้างแรงบันดาลใจ หรือการเป็นไกด์ให้คนรุ่นใหม่ มันเป็นวิสัยทัศน์ที่สวยงามและมีพลังมาก เช่น การสร้างสังคม (Community) ที่ช่วยคนค้นหาความหมายในชีวิต การรักษา (Heal) ตัวเองผ่านการตระหนักรู้ในสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญ หรือการเป็นพลังบวกในชีวิตคู่
การตั้งคำถามที่ทำให้คนเริ่มตระหนักรู้ตัวเอง เช่น
- “ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกอะไร?”
- “สิ่งนี้สะท้อนอะไรในตัวฉัน?”
- “ฉันเปรียบเทียบตัวเองกับใครหรือเปล่า?”
- “สิ่งที่ฉันทำตอนนี้ มันนำฉันไปสู่เป้าหมายชีวิตที่แท้จริงหรือเปล่า?”
การแนะนำคำถามเหล่านี้ในจะช่วยให้คนเริ่มพิจารณาชีวิตของตัวเองได้ดีขึ้น
สิ่งสำคัญคือการเริ่มจากจุดเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายผล ด้วยความตั้งใจจริง ทำให้นันทนาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอีกมากมาย และอาจจะเป็น “เสียง” ที่เปลี่ยนชีวิตคนอื่นเหมือนที่หนังสือของหลุยส์ เฮย์ เคยเปลี่ยนชีวิตของนันทนามาแล้ว
การเข้าใจจิตวิญญาณหรือ Spiritual ช่วยให้คนค้นพบตัวตนที่แท้จริงและพัฒนาจิตใจเพื่อเผชิญกับชีวิตอย่างมีความหมาย บีบี นันทนา บุนนาค พบว่าการสูญเสียคุณแม่และช่วงโควิดเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับชีวิต และศึกษาเรื่องจิตวิญญาณผ่านคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งช่วยให้เธอเข้าใจว่ามนุษย์คือจิตวิญญาณที่มาเรียนรู้ในโลกนี้ นอกจากนี้ยังมองเห็นว่าแนวคิดทางการศึกษากำลังเปลี่ยนไป และการพัฒนาตนเองทางจิตวิญญาณสามารถเป็นแรงบันดาลใจและการเยียวยาผู้อื่นได้
