กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งเปลี่ยนทางโตหนีกับดักอุตสาหกรรมเก่า GDP โตต่ำ เปลี่ยนผ่านสู่นิวเอสเคิร์ฟ เศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมไร้มลพิษ ตอบโจทย์ ESG – SDG ‘Now Thailand’ เร่งยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ ทางลัดเร่ง GDP ก้าวกระโดด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ก้าวสู่ปีที่ 8 จัดงานสัมมนาวิชาการ ‘ECO Innovation Forum 2024’ ภายใต้แนวคิด ‘Now Thailand: Sustainable Futures – ลงทุนในประเทศไทยเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน’
เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สงครามการค้า ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ขยายตัว 1.5% ขณะที่ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เติบโตสูงกว่า
ขณะที่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา GDP ไทยเติบโตต่ำกว่าอัตรา 5% (ปี 2560-2566) มาโดยตลอด โดยในปี 2560 เติบโต 3.9% ปี 2561 เติบโต 4.2%, ปี 2562 เติบโต 2.2%, ปี 2563 ติดลบ 6.2% เนื่องจากสถานการณ์โควิด19, ปี 2564 เติบโตประมาณ 1.6%, ปี 2565 เติบโต 2.5%, และปี 2566 เติบโตประมาณ 1.9%
GDP เติบโตต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการติดกับดักอุตสาหกรรมดั้งเดิม ยังไม่สามารถขยายตัวไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ สู่นิวเอสเคิร์ฟใหม่ โดยการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง นวัตกรรม ส่งเสริมการลงทุน พัฒนาทักษะแรงงาน รวมถึงการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
การจะผลักดันในเรื่องเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นบทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรมในการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่นิวเอสเคิร์ฟที่โลกต้องการ
3 อุตสาหกรรมไร้มลพิษความหวังเร่งลงทุน
สู่นิวเอสเคิร์ฟขับเคลื่อนGDP
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยดังกล่าว เป็นความท้าทายในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามกระทรวงอุตสหกรรมได้วางแนวทางส่งเสริมใน 3 ด้านเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย ไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ประกอบด้วย 1. การจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นพิษ 2. การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และ 3.การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่
โดยแนวทางดังกล่าว จะช่วยสร้างความมั่นใจในการดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความผันผวนของโลก ทั้งสงคราม เศรษฐกิจ และ สภาพภูมิอากาศ ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้า ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการที่ประเทศไทย จะต้องเริ่มต้นขับเคลื่อนตั้งแต่วันนี้ (Now Thailand) เพื่อเร่งการขับเคลื่อนเหมือนเป็นทางด่วน เปิดกว้างรองรับนักลงทุนให้เข้ามาในประเทศ
“ประเทศไทย ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ (Now Thailand) ไม่ใช่เป็นแค่เป้าหมายแต่เป็นทางลัดสำหรับประเทศไทย”
สำหรับแผนงบประมาณในปี 2568 ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่ของไทย จะมุ่งเน้นการส่งเสริมพลังอำนาจอ่อนนุ่ม (Soft Power) เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจไทยและยังช่วยเชื่อมโยงกับเทรนด์การพัฒนาโลก ในการขับเคลื่อนไปสู่ อุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์นโยบายอุตสาหกรรม 3 ด้านที่วางไว้ ทั้งการลดมลพิษในอุตสาหกรรม กำจัดกาก และ อุตสาหกรรมฮาลาล
“ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมี 2 เรื่องที่จะขอความร่วมมือ คือ 1.ช่วยกันส่งเสริมการสร้างการตระหนักรู้ มีรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ปลูกฝังค่าค่านิยมนี่สอดคล้องไปในทุกพนักงานในองค์กรธุรกิจ เช่น การแยกขยะ จ้างบริษัทกำจัดการที่ได้มาตรฐาน 2.ร่วมกันปกป้องอุตสาหกรรมไทย ด้วยการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ให้เติบโต ปกป้องผู้บิดเบือนตลาด เข้ามาแข่งขันราคา และเป็นมิตรกับนักลงทุน สนับสนุนให้อุดหนุนผู้ผลิตชาวไทย”
GDP ไทยโตเฉลี่ยต่ำกว่าเพื่อนบ้าน
เร่งอัดฉีดเงินกองทุนปลุกโอกาสนิวเอสเคิร์ฟ
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในปัจจุบันเศรษฐกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ กำลังต่อสู้กับการเปลี่ยนของเทคโนโลยี สงครามการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ที่ส่งผลให้ GDP ของไทยเติบโตเฉลี่ยต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตสูง
สอท. จึงพยายามผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยผ่านนโยบาย ONE FTI ยกระดับอุตสาหกรรมเดิมและใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และหุ่นยนต์
ธุรกิจเล็ก ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญไม่ต่างจากอุตสาหกรรม จึงส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็น Smart SMEs ด้วยการพัฒนาความรู้ดิจิทัล มีกองทุน Innovation One มูลค่า 1,000 ล้านบาท
“ควรพัฒนาความรู้และเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการพัฒนา
ให้ตามแนวคิด ESG โดยมองว่า NOW Thailand วันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่แผนการหรือแนวคิด แต่เป็นความ ร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคมและสถาบันการเงิน”
เร่งลงทุนดิจิทัล เปลี่ยนผ่านสู่นิคมอัจฉริยะ
สุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ทางกนอ.วางแผนงานเร่งรัดให้เกิดการการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สู่อุตสาหกรรมอัจฉริยะเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายใต้แนวคิด ‘NOW THAILAND’ ให้เร็วที่สุด
เมื่อนิคมอุตสาหกรรมไทยพัฒนาได้ตามเป้าหมาย จะยกย่องโดยการประกาศมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยขับเคลื่อน อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รวมหลายรางวัล ได้แก่ ระดับ Eco-World Class จำนวน 4 แห่ง, ระดับ ระดับ Eco-World Class 9 แห่ง, ระดับ Eco-Excellence 25 แห่ง, ระดับ Eco-Champion 40 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) 79 แห่ง และโรงงานเครือข่ายลดก๊าซเรือนกระจกดีเด่น 5 แห่ง เพื่อดึงภาคอุตสาหกรรมให้ริเริ่ม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเมื่อสำเร็จก็สามารถรับรองในภาคธุรกิจได้ อันนำมาสู่การลงทุนต่อไป