ส่องมาตรการสกัดปัญหามลพิษ ทำไมฝุ่นควัน PM2.5ยังเต็มท้องฟ้า

ส่องมาตรการสกัดปัญหามลพิษ ทำไมฝุ่นควัน PM2.5ยังเต็มท้องฟ้า

ส่องมาตรการจัดการPM2.5 ทุกหน่วยงานภาครัฐ มีการบริหารจัดการ ทั้งนำมาตรการแก้ไขปัญหารระยะสั้น ผ่านกฎหมายต่างๆ จนถึงการวางแผนป้องกันระยะยาว ตั้งแต่ป้องกันลดการเผา ทั้งการบังคับใช้กฎหมายลงโทษ มีภาครัฐทำครบทุกมาตรการที่มีกฎหมายรองรับ แต่ผลลัพธ์ค่าPM2.5 ยังคงสูง สะท้อนให้เห็นว่า คนตามแก้ไขปัญหาไม่ทันกับลบล้างจำนวนคนก่อควันพิษ 

 

 

สถานการณ์ฝุ่นควันที่สร้างควาเรื่องทั้งหมดมสูญเสียทางเศรษฐกิจและผลเสียต่อสุขภาพอย่างมหาศาล จึงได้เร่งผลักดันการแก้ปัญหา PM 2.5 ให้ครอบคลุมในทุกมิติ โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพจากการหายใจอากาศที่มีฝุ่นควันพิษPM 2.5 

โดยกำหนดมาตรการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในรูปแบบที่ให้เป็นตัวเงิน (in cash) และรูปแบบการสนับสนุนและการกำกับตามกฎหมาย ยกระดับมาตรฐาน บริหารจัดการ

ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ (in kind) โดยการสั่งการลงมือดำเนินการจัดการปัญหาPM2.5 ผ่านมาตรการต่าง ๆ อย่างครบถ้วน แต่ก็ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับคำสั่งล่าสุดของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตั้งแต่ 10 มกราคม 2025 มอบหมายให้ทุกกระทรวง เร่งดำเนินการจัดการกับวิกฤตฝุ่นอย่างเข้มงวด ทุกส่วนราชการต้องเร่งดำเนินการบังคับใช้มาตรการที่มีกฎหมายในกรระทรวงอย่างเด็ดขาด สั่งสตช.และ ก.คมนาคมต้องกวดขันจับรถควันดำ โดย เฉพาะปิคอัพแต่งเครื่อง พ่นควันดำเกลื่อนเมือง ก.อุตสาหกรรมต้องงดรับซื้อพืชจากการเผา ส่วน ก.พาณิชย์ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากการเผา ก.กลาโหมเร่งกวดขันจับกุมการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน ก.มหาดไทยต้องห้ามไซต์งานก่อสร้างที่ก่อมลพิษ ก.ตปท.ให้จับเข่าคุยเพื่อนบ้าน โดยมีมาตรการดังนี้ คือ 

-มาตรการควบคุมการปล่อยมวลพิษจากอุตสาหกรรม ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับคำสั่งให้ออกมาตรการพิเศษ ควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงาน รวมถึงตรวจสอบคุณภาพอากาศ   

กวดขันการทำงานของรถยนต์: กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน เช่น รถปิคอัพ รถโดยสาร และรถบรรทุกขนาดใหญ่.

งดการรับซื้อและนำเข้าสินค้าเกษตรจากการเผา ทางกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ข้อสั่งการให้งดการรับซื้ออ้อยจากการเผาไม้ 

-เข้มงวดควบคุมผู้เผาป่า และพืชเกษตรอื่น ๆ ที่ผ่านการเผา โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้บังคับใช้กฎหมายออย่างเข้มงวด 

ควบคุมการก่อสร้าง  กระทรวงมหาดไทยกำชับกรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคุมการก่อสร้างเพื่อลดการปล่อย PM2.5 จากสถานที่ก่อสร้าง.

พัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูล  กระทรวงดิจิทัล กระทรวงอุดมศึกษาและกระทรวงทรัพยากรร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับ hotspot และ ventilation โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมหรือ low cost sensors ตรวจจับการเผาไหม้

การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยกำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ป้องกัน การลักลอบเผาและเกิดไฟไหม้ลุกลาม

มาตรการในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย  มีการผลักดันนโยบายการตัดอ้อยสดและการสนับสนุนเครื่องสางใบอ้อยเพื่อลดการเผา นำเทคโนโลยีมาติดตามและลดการเผา และร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( BOI) ขอรับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีในการลดฝุ่น PM2.5 จากการเกษตร

โดยภาพรวมของมาตรการได้แบ่งเป็นระยะสั้น จนถึงระยะยาว ดังนี้ คือ 

ระยะเร่งด่วน

  1. ผลักดันนโยบายการตัดอ้อยสดลดการเผาอ้อย ลดฝุ่น PM 2.5

      2.สนับสนุนเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืม นำไปใช้สางใบอ้อยทดแทนแรงงานคน

  1. การยกเว้นภาษีศุลกากรการนำเข้าสำหรับเครื่องจักรกลการเภษตร 
  2. การขดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกร ชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรใช้ในไร่อ้อย
  3. ดำเนินการร่วมกับ BOI เพื่อขอรับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 120% ของเงินลงทุน กรณีโรงงานน้ำตาลลงทุนซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อสนับสนุนลดฝุ่นละออง PM 2.5 จากภาคการเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกร
  4. นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อติดตามและลดการเผาอ้อย

 

ส่วนระยะยาว

  1. การกำหนดปริมาณมาตรฐานในการผลิตน้ำตาลทรายขั้นต่ำของโรงงาน
  2. กำหนดปริมาณอ้อยที่ถูกลักลอบเผาอ้อย ฤดูการผลิตปี 2567/2568 ไม่เกิน 25%
  3. มาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝน PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/2568 – 1

2569/2570

  1. มาตรการช่วยเหลือขาวไร่อ้อย เก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 (แผน 3 ฤดูกาลผลิต)

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเร่งดำเนินการจัดการปัญหา PM 2.5 อย่างเข้มงดและเพิ่มการจัดการให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อคืนอากาศที่สะอาดให้กับประชาชน นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีการเดิบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล

ทว่า   แต่จากข้อมูลติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2567 – 9 มกราคม 2568 ในภาพรวมพบจังหวัดที่มีค่าฝุนกลับยังเกินมาตรฐาน 37.5 มคก./ลบ.ม.หรือมีระดับสีส้ม จำนวน 53 จังหวัด

 

ส่องแนวคิดมาตรการสกัดฝุ่นควัน PM2.5 

รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาฝุ่น PM2.5 และได้มีการดำเนินนโยบาย ออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว โดยมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณฝุ่นที่ต้นทาง การควบคุมการเผา การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน

สำหร้บนโยบายหลักที่สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการลดการเผาในระยะยาว ที่ไม่ใช่เพียงการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เริ่มต้นจากการลดปริมาณฝุ่นที่ต้นทาง การควบคุมการเผา ตลอดจนการยกระดับการวางโครงสร้างป้องกันในระยะยาว ตั้งแต่การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน

 ประกอบด้วย 

1.การลดการเผา ตั้่งแต่ห้ามการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรที่ไม่ต้องเผา เช่น การไถกลบ โดยภาครัฐสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ไม่ต้องเผา

2.การควบคุมการปล่อยมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม มีการกำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น และบังคับใช้อุปกรณ์ควบคุมมลพิษ
3.การควบคุมการปล่อยมลพิษจากภาคขนส่ง มีการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสะอาด  พร้อมกันกับตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ

4.การสร้างความตระหนักรู้ ต้องมีการให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ทำให้เกิดการส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจากภาคประชาชน 

5.การวิจัยและพัฒนา มีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 พัฒนาแบบจำลองคาดการณ์คุณภาพอากาศ

6.มาตรการที่น่าสนใจเพิ่มเติม มีการการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง  เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ และการจัดการขยะมูลฝอย ช่วยลดการเผาขยะ ตลอดจน ปลูกป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียวช่วยในการดักจับฝุ่นละออง, การทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน:เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน

 

แนวทางการติดตาม จะต้องมีการประเมินผลดังนี้ 

  • ประสิทธิภาพของนโยบาย  มีการการประเมินผลการดำเนินงานของนโยบายต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • การมีส่วนร่วมของประชาชน  การสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

  • การพัฒนานวัตกรรม  การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

  • จัดตั้งศูนย์ข้อมูลนโยบายของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับการจัดการฝุ่น PM2.5 นโยบายและมาตรการต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ (https://www.pcd.go.th/) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม https://www.facebook.com/deqpthailand/?locale=th_TH

 

วิเคราะห์ ผลลัพธ์ ตามไม่ทันกับต้นเหตุปัญหาใหญ่ 

แม้ว่ามาตรการต่าง ๆ จะถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา แต่ว่าสาเหตุที่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นไปตามคาดเป็นผลมาจาก ดังนี้  

  1. การควบคุมไม่ได้เข้มงวดพอ การบังคับใช้กฎหมายและมาตรการไม่ได้ถูกนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเข้มงวดหรือทั่วถึง ในหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ยังคงมีพื้นที่หลุดลอดการเผา โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล และตามแนวชายแดน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน 

  2. การเผาที่ไม่สามารถควบคุมได้  การเผาไร่อย่างผิดกฎหมายยังคงเกิดขึ้น เพราะเป็นวิธีการที่รวดเร็ว ลดต้นทุน 

  3. การปล่อยมลพิษอย่างต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมและยานพาหนะ ควันพิษและฝุ่นละอองยังคงถูกปล่อยเข้าสู่บรรยากาศ ในรถที่มีอายุการใช้ยาวนานเกิน 10 ปี ยังคงวิ่งตามท้องถนน โดยขาดการตรวจสอบอย่างจริงจัง 

  4. ความรู้และความตระหนักของประชาชน คนทั่วไปยังไม่ตระหนักถึงผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ที่ปัญหาเริ่มต้นจากคนในพื้นที่ห่างไกล จนกระทั่งเมื่อปัญหานั้นเริ่มเข้ามาใกล้ตัว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเมือง จึงเริ่มหันร่วมมือ ที่จะต้องใช้เวลาในการสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ 

แมี้รัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการต่าง ๆ หลากหลาย แต่ผลลัพธ์ยังไม่สัมฤทธิ์ผลตามที่คาดหวัง การแก้ไขปัญหาผ่านการบังคับใช้กฎหมายและสร้างความตระหนักรู้ในประชาชนจะต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป

 

ที่มา https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92216