‘CRAFT PARK’ โมเดลที่สร้างชุมชนอยู่ดีมีสุข ทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องเริ่มจากพื้นที่ สร้างสุข แหล่งเรียนรู้หน่วยย่อยๆของสังคม นั่นคือ “เด็กเล็ก”
‘บริทาเนีย’ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เพียงปลูกบ้าน แต่ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อทุกชีวิตที่อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย สอดคล้องกับ เทรนด์โลก เริ่มตระหนักถึงโมเดลสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้มีประสิทธิภาพ คือการพัฒนาที่ดินเป็นพื้นที่สีเขียว มีพื้นที่รองรับการทำกิจกรรม ให้เด็กได้วิ่งเล่น ชุมชนได้มาแลกเปลี่ยนแนวคิด นำไปสู่การต่อยอดพัฒนาสิ่งดีๆเพื่อสังคม
บริทาเนียได้นำทีมพันธมิตรภาครัฐ-ประชาสังคม-เอกชน ตอกย้ำพันธกิจองค์กร ส่งต่อสิ่งที่ดี B The Goodness จึงพัฒนาพื้นที่สาธารณะ ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเอื้อต่อการเรียนรู้ เป็น “สื่อ”กลางเชื่อมต่อคนในชุมชนให้ได้มีส่วนร่วม เพื่อเป็นสังคมคุณภาพที่ดี สุขภาวะที่ดี ส่งต่อพลังดีๆให้กับคนในสังคม จึงเกิดความยั่งยืนในการร่วมมือกันพิทักษ์รักษาปกป้องเมือง
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน เปิดเผยถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมอีกหลายรายเพื่อร่วมกันพัฒนา CRAFT PARK พื้นที่สาธารณะสีเขียวเพื่อชุมชนภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนแห่งแรก บริเวณศูนย์บริการสาธารณสุข 8 บุญรอด รุ่งเรือง (ซ.อุดมสุข 18) เขตบางนา โดยได้ส่งมอบพื้นที่แห่งแรก “สนามเด็กเล่นพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก” หน้าศูนย์เด็กเล็ก ให้แก่ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกัน
“สนามเด็กเล่นพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก CRAFT PARK ต้นแบบของพื้นที่การเรียนรู้เด็กเล็ก ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเราในการตอกย้ำ พันธกิจ B The Goodness คือ สร้างให้การอยู่อาศัยสามารถอยู่ร่วมกันกับสังคมรอบข้างและสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเรามีเป้าพัฒนาพื้นที่สาธารณะสีเขียว Craft Park อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมสุขภาพดี เติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ชุมชนได้อย่างแท้จริง” นายสุรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้พื้นที่การเรียนรู้ เชื่อว่า สนามเด็กเล่นพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก CRAFT PARKจะเป็นพื้นที่ในการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใหญ่เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้หรือพื้นที่เล่นสำหรับเด็กๆ เป็นพื้นที่แห่งการพบปะสังสรรค์ของผู้ปกครอง โดยมีเด็กเป็นศูนย์กลาง เมื่อสถาบันครอบครัวมีความสุข สุขภาพดี ก็จะได้เยาวชนที่เข็มแข็งทั้งจิตใจและร่างกาย รวมทั้งการเตรียมความพร้อมที่จะออกไปสู่สังคมภายนอกต่อไป
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผลสำเร็จของโครงการ CRAFT PARK จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ภาคส่วนต่างๆ สามารถนำโมเดลไปขยายในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป ซึ่งเชื่อว่าหากภาคส่วนต่างๆ ให้ความร่วมมือกันในการพัฒนาพื้นที่เพื่อสาธารณะ
ด้วยนโยบายที่จะทำให้คุณภาพชีวิตโดยรอบของพื้นที่ที่ถูกพัฒนาดีขึ้น ดังนั้น กทม.จึงให้ความสำคัญ ในการเป็นส่วนสนับสนุนให้เกิดการขยายพื้นที่ให้มากขึ้น อย่าง สนามเด็กเล่นพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก CRAFT PARK เหมาะสมกับการเรียนรู้ทั้งทางสติปัญญาและร่างกายของเด็กเล็ก โดย กทม. มองเห็นโอกาสที่จะขยายไปยังพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร ทั่ว กทม. ทั้ง 278 แห่ง ต่อไป
“CRAFT PARKเป็นโครงการที่สอดรับกับนโยบาย กทม. คือ สวน 15 นาที ที่ต้องการพัฒนาเมืองภายใต้การมีพื้นที่เพื่อส่งเสริมการสร้างสุขภาวะที่ดี ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีกระบวนการดำเนินงานเป็นต้นแบบให้กับการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ได้ เพราะสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างจริงจัง ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ รวมถึงเป็นการผสานความร่วมมือของทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ภาคประชาสังคม จนสามารถสร้างพื้นที่ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการของคนในพื้นที่” นายชัชชาติ กล่าว
สำหรับความพิเศษของCRAFT PARK แห่งแรก – สนามเด็กเล่นพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก มีขนาด 119 ตารางวา พัฒนาสู่การเป็นต้นแบบของพื้นที่การเรียนรู้เด็กเล็ก เน้นเรื่องการส่งเสริมทั้งทางสติปัญญาและร่างกาย ของเด็กอย่างรอบด้าน เหมาะสมกับวัย ส่งเสริมพัฒนาการด้านการเข้าสังคม ให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
จุดเด่นคือ การเลือกใช้วัสดุที่ดูแลง่าย จะเน้นความปลอดภัยต่อเด็ก อาทิ
-การเลือกใช้พื้นยาง
-สีปลอดสารพิษ
-ลูกบอล
-กระบะทราย
-หญ้าเทียม
และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลท์ คือ การสร้างเอกลักษณ์ออกแบบเครื่องเล่นที่ทางทีมจะ CRAFTขึ้นมาพิเศษเพื่อพื้นที่นี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น we!park ทีมงานที่ลงพื้นที่สำรวจต้องการของคนในชุมชนร่วมกับบริทาเนียตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือด้านการออกแบบดีไซน์จาก วายด์ อินทีเรีย
นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรอื่นๆ อีกกว่า 10 ราย มาร่วมสร้างโลกแห่งการเรียนรู้ให้เด็กไทย ได้แก่ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็ม เอ็ม พี วัสดุก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เอ็น.เอ.เอส.แมชชีนเนอร์รี่ แอนด์ ไพล์ จำกัด บริษัท แสงฤทธิ์ 2559 จำกัด, บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด, บริษัท รักษาความปลอดภัย คัดสรร การ์ด จำกัด และ บริษัท เอ็ม จี กรีน จำกัด