หลายองค์กรยังขาดนโยบายรองรับผู้ป่วยมะเร็งในที่ทำงาน อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส แนะนำแนวทาง 5C มุ่งเน้นการป้องกัน ดูแล และสนับสนุนพนักงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงาน
รู้หรือไม่ โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 400 คน โดยไม่เลือกอายุ ซึ่งมีคนจำนวนมากที่ต้องต่อสู้กับอาการป่วย พร้อมกับดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ
จากผลการศึกษา พบว่าประชากรวัยทำงานถึง ครึ่งหนึ่ง มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับโรคมะเร็งในช่วงชีวิตของตนเอง ซึ่งทำให้สถานที่ทำงานมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากโรคร้ายนี้
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยระดับโลก จึงแนะนำให้องค์กรต่าง ๆ ใช้มาตรการเชิงรุก โดยการนำ โปรแกรมสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็ง มาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านสุขภาพของพนักงาน
องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายรองรับผู้ป่วย
โรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน กำลังกลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะใน ยุโรปกลางและเอเชีย ซึ่งพบว่าอัตราการเกิดโรคสูงขึ้น จนใกล้เคียงกับยุโรปตะวันตก ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่ปัญหาสำคัญคือ องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่มีนโยบายรองรับผู้ป่วยมะเร็งในที่ทำงาน
│ ในสหราชอาณาจักร มีองค์กรถึง 96% ที่ยังไม่มีนโยบายเฉพาะสำหรับโรคมะเร็ง และ
│ 77% ของพนักงานที่ได้รับผลกระทบยังไม่ได้รับสวัสดิการที่เพียงพอต่อความต้องการ
ข้อมูลจาก International SOS Global Assistance (ปี 2565-2567) ยังเผยว่า โรคมะเร็งเต้านม (28%) และมะเร็งต่อมลูกหมาก (6.27%) เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการให้การสนับสนุนพนักงานอย่างเหมาะสม องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ การตรวจคัดกรอง การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้ป่วย จะช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับโรคนี้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในระยะยาว
5C แนวทางดูแลพนักงานที่ป่วยมะเร็งในที่ทำงาน
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส แนะนำแนวทาง 5C เพื่อช่วยองค์กรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อพนักงานที่ป่วยมะเร็ง โดยครอบคลุมทั้งการป้องกัน ดูแล และให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม
1. Champion Awareness & Prevention – สร้างความตระหนักรู้และการป้องกัน
องค์กรควรให้ความรู้เกี่ยวกับ การป้องกันและตรวจคัดกรองมะเร็ง ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การประชุม สัมมนา อีเมล โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ และจดหมายข่าว เพื่อให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์
2. Care & Support – การดูแลและช่วยเหลือพนักงาน
ให้การสนับสนุนพนักงานในทุกขั้นตอนของการรักษา ตั้งแต่ การตรวจคัดกรอง การดูแลทางการแพทย์ ไปจนถึงการให้คำปรึกษา พร้อมทั้งจัดสรรเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อลดความกดดันในการรักษาโรค
3. Communication & Collaboration – สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและให้กำลังใจ
ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานรู้สึก ปลอดภัยและมั่นใจ ในการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของตนเอง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกตัดสินหรือเลือกปฏิบัติ
4. Conduct a Workplace Assessment – ประเมินและลดความเสี่ยงในสถานที่ทำงาน
ตรวจสอบและลดปัจจัยเสี่ยงในที่ทำงานที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง เช่น สารก่อมะเร็ง พฤติกรรมเนือยนิ่ง อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และภาวะน้ำหนักเกิน รวมถึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พนักงานมีสุขภาพดีขึ้น
5. Confidentiality & Respect – รักษาความลับและเคารพความเป็นส่วนตัว
องค์กรต้องมีกระบวนการ จัดการข้อมูลสุขภาพของพนักงานอย่างปลอดภัย พร้อมฝึกอบรมผู้จัดการและหัวหน้างานเกี่ยวกับ การดูแลพนักงานที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างระมัดระวังและละเอียดอ่อน
ดร. เคท โอเรลลี ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนพนักงานที่เผชิญกับโรคมะเร็งอย่างครอบคลุม โดยระบุว่า “การให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคมะเร็ง การส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ และการสนับสนุนให้มีการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ” เป็นมาตรการสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรค พร้อมทั้งช่วยให้พนักงานได้รับการดูแลที่เหมาะสมตลอดเส้นทางการรักษา องค์กรควรเข้าใจความต้องการเฉพาะตัวของพนักงาน เปิดโอกาสให้เข้าถึงการตรวจคัดกรอง และสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานกล้าพูดคุยเรื่องสุขภาพโดยไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ “นโยบายเชิงรุกและครอบคลุมในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในที่ทำงานไม่เพียงช่วยพนักงานแต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรอีกด้วย”
การมีนโยบายที่ชัดเจนและครอบคลุมในการดูแลพนักงานที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรด้วย ดังนั้น ทุกองค์กรควรพิจารณาและดำเนินการเพื่อสนับสนุนพนักงานในด้านนี้อย่างจริงจัง
อ้างอิง : https://ch9airport.com/