เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 พ.ต.ท.พงศ์พร มีอันต้องพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ มานั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แทนที่ นายพนม ศรศิลป์ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 12/2560 คราครั้งนั้นสาธุชนพากันยกมือท่วมหัวแซ่ซ้องสรรเสริญยกย่อง ในการตัดสินใจของหัวหน้าคสช.ว่าทำดีแล้ว ถูกแล้ว ชอบแล้ว และตั้งความหวังว่าคนอย่าง พ.ต.ท.พงศ์พร ซึ่งมีบุคลิกที่เอางานเอาการ สมถะ มัธยัสถ์ อีกทั้งยังเคร่งครัดในอุโบสถศีลอย่างยากจะหาใครเสมอเหมือน น่าจะช่วย “ลอกสนิม” ให้หมดไปจากบวรพระพุทธศาสนา ทำให้พระพุทธศาสนาผุดผ่องเป็นยองใย เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาจากมวลหมู่พุทธศาสนิกชนได้อย่างสนิทใจ กรรมที่ พ.ต.ท.พงศ์พร ได้ทุ่มเทกระทำไปตามอำนาจหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ กระทั่งทำให้บรรดา “อสูรกาย”ในคราบพระเถระจำนวนมากมายก่ายกอง ที่เคยทำมาหากินกับงบประมาณอุดหนุนบำรุงพระพุทธศาสนากันพุงป่องพุงปลิ้น ถึงกับร้อนทุรนทุราย กระสับกระส่ายไม่เป็นอันกิน ไม่เป็นอันนอน ชาวบ้านร้านตลาดพากันล่ำลือเซ็งแซ่ว่า บรรดาเหล่าอสูรร้ายในร่างทรงพระเถระทั้งหลายถึงขนาดรวมหัวกัน “คว่ำบาตร”ไม่สมาคมกับพ.ต.ท.พงศ์พร ชั่วร้ายต่ำทรามหนักไปกว่านั้นคือ การสมคบกันรวมพลังสามานย์กดดันให้ “เขี่ย”พ.ต.ท.พงศ์พร ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะถูกพ.ต.ท.พงศ์พร กระชากหน้ากากพระเถระเผยกำพืดธาตุแท้แห่งความเป็นอสูรประจานให้สาธุชนได้สะอิดสะเอียนอาเจียนกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง เสียงลือเสียงเล่าอ้างแห่งกฤษฏาภินิหารของเหล่าอลัชชี จะมีอิทธิฤทธิ์จริงหรือไม่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหน้าไหนออกมาแอ่นอกยอมรับ แต่รูปธรรมที่ปรากฏจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 มันพอจะช่วยยืนยันความเฮี้ยนของพลังอลัชชีได้เป็นอย่างดี มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีผลทำให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ต้องพ้นจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อาจทำให้เหล่าอลัชชีที่เกรอะกรังด้วยสนิมแห่งกิเลส-ตัณหา-ราคะพากันเริงร่าลิงโลด แต่สำหรับสาธุชนทั้งหลายแล้วต่างมีอาการ “ช็อค”ไปตาม ๆกัน ทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พยายามอธิบายชี้แจงแสดงเหตุผลประกอบความชอบธรรมในการย้าย พ.ต.ท.พงศ์พรต่าง ๆนานา เพื่อหวังจะให้ชาวบ้านเคลิบเคลิ้มคล้อยตาม แต่เนื้อหาสาระในทุกคำชี้แจงมันช่างยุ่ยยั่บไปด้วยความอ้ำอึ้งอู้อี้ หาความน่าเชื่อถือไม่เจอะเจอ แค่เรื่องเงินทอนวัดยังเฮี้ยนขนาดนี้ ถ้าเรื่องเงินทอนโครงการหมื่นล้านแสนล้านมันจะเฮี้ยนกันขนาดไหน….เอวังประเทศไทยใสสะอาดก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล ……………………………………………………………………..