พร้อมทั้งรับฟังความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แล้วจะนำมาพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีในภูมิภาคนั้นเพื่อจะได้นำไปสู่การอนุมัติ แผนงานโครงการ งบประมาณ ให้สามารถดำเนินงานได้ในหลายโครงการ เพื่อจะบรรเทาปัญหาและช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนชาวอีสานและชาวโคราช ซึ่งรัฐบาลมีความต้องการที่จะต้องเชื่อมโยงกันในระดับภาคและประเทศ
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อต้นสัปดาห์ ได้มีการอนุมัติให้ดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคตะวันออก เฉียงเหนือหลายด้านด้วยกันอาทิ…
- โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา ในส่วนของการให้เอกชนมาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือเรียกว่า PPP ซึ่งทางหลวงพิเศษนี้ จะมีระยะทางประมาณ 196 กิโลเมตร และเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองจากกรุงเทพมหานคร ถึง หนองคาย ซึ่งจะมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 535 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเชื่อมโยงกทม.กับศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
- การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กว่า 2 พันล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในพื้นที่ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือและภาคเหนือให้กลับสู่ปกติโดยเร็ว
- เห็นชอบข้อเสนอแผนงานโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่
(1) การกำหนดพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 8 พื้นที่ ให้ครอบคลุม 18 จังหวัด เพื่อให้มีความชัดเจนในการบูรณาการ แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
(2) ให้กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทรัพยากรน้ำ เสนอโครงการที่มีความพร้อมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2561 เพิ่มเติม รวม 348 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 8,800 กว่าล้านบาท จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ราว 550,000 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 107 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งอุทกภัยและภัยแล้งครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียง เหนือใน 8 พื้นที่
(3) ให้รวบรวมแผนงานโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในระยะยาว ปี 2563 ถึง 2569 ตามแผนบริหารจัดการน้ำ ของภาคตะวันออก เฉียงเหนือ (4) ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ หรือกำหนดมาตรการรองรับกรณีเกิดอุทกภัย โดยต้องแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียง “ส่วนหนึ่ง” ในมาตรการสำคัญๆ ที่ได้ดำเนินการ เพื่อบรรเทาปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาหารือและร่วมกันพิจารณาแนวทางแก้ไข เช่น เรื่องการศึกษา, การพัฒนาแรงงาน และการสาธารณสุข ซึ่งก็ได้มีการมอบหมายส่วนงานให้ไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว ตนต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวโคราช, ภาคเอกชน และข้าราชการในพื้นที่ ตลอดจนทุกจังหวัด ในพื้นที่ภาค อีสาน ที่ได้มาต้อนรับและให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ กับตนและคณะฯ อย่างอบอุ่น และเปี่ยมด้วยมิตรไมตรีที่ดียิ่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนและคณะรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการจากส่วนกลาง ได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะได้รับข้อมูลโดยตรงจากพี่น้องประชาชน ได้ลงไปเห็นปัญหา และผลงาน รวมถึงสิ่งที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตามตนและคณะฯ ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเดินทางลงพื้นที่เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ไปยังภาคอื่นๆ ให้ทั่วถึง ขอให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลนี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาภูมิภาคเป็นอย่างมาก เพราะเป็นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งตนและคณะ รัฐมนตรี พร้อมที่จะรับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ และจะพยายามแก้ไข บรรเทาทุกข์ของท่าน อย่างเต็มกำลังความสามารถ ตนอยากให้เราเดินหน้า และปรับตัวเพื่อสู้กับปัญหาไปด้วยกัน