โลกใบนี้นับวันจะอยู่ยากมากขึ้นไปทุกที…พลโลกก็มีแนวโน้มตกเป็นเหยื่อถูกยุยงปลุกปั่นให้โกรธแค้นชิงชังหนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น ขณะที่สันติสุข-สันติภาพ-มิตรภาพ กำลังถูกทำให้เลือนลางจางหายไป
จู่ ๆมุสลิมทั้งผองพี่น้องกันในโลกอาหรับ ก็มีอันต้องประกาศตัดสัมพันธ์กันทั้งทางการทูต..การเศรษฐกิจ…และการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน
ชนวนเหตุที่ชักนำให้พี่น้องมุสลิมในโลกอาหรับต้องตัดสัมพันธ์แยกขั้วแบ่งค่ายกัน มาจาก 6 ชาติในโลกอาหรับคือ ซาอุดิอาระเบีย-อียิปต์-สหพันธรัฐอาหรับเอมิเรต(ยูเออี)-บาห์เรน-ลิเบีย-เยเมน ต่างพากันชี้นิ้วไปที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเปรียบเสมือน”ไข่แดง”ใจกลางโลกอาหรับ แล้วกล่าวหาด้วยข้อหาสุดฉกาจฉกรรจ์ โดยระบุว่า”กาตาร์ ให้ทุนอุดหนุนขบวนการก่อการร้าย”
ขบวนการก่อการร้ายที่กาตาร์ถูกกล่าวหาสวมบท “ป๋าสายเปย์” อัดฉีดเงินสนับสนุนปฏิบัติการก่อการร้ายของขบวนการก่อการร้าย มีทั้งไอเอส-อัลไกด้า-ภราดรภาพมุสลิม-ฮูธี-ทาลีอัลชาม รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายระดับเอสเอ็มอีที่สร้างความปั่นป่วนในหลายชาติของโลกอาหรับ
เฉพาะเงินอัดฉีดที่กาตาร์จ่ายให้แก่กลุ่มก่อการร้ายทาลีอัลชาม ซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงแนบแน่นกับอัลไกด้าในซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อเป็น “ค่าไถ่ชีวิตตัวประกัน” จำนวน 26 คน ซึ่งมีเชื้อพระวงศ์ระดับสูงรวมอยู่ด้วย ก็ปาเข้าไปหลัก “พันล้านดอลลาร์สหรัฐ” หรือกว่าสามหมื่นสี่พันล้านบาทเข้าไปแล้ว
อย่างไรก็ดีหากพลิกตรวจสอบแฟ้มข่าวย้อนหลัง ก่อนที่กาตาร์จะถูกเพื่อนในโลกอาหรับ “รุมกินโต๊ะ”ไม่นานนัก พบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางไปตั้งวงจ๊ะจ๋ากับบุคคลระดับสูงในซาอุดิอาระเบียและอียิปต์ แล้วอาจอาศัยจังหวะนั้นยัดข้อมูลยุแยงตะแคงรั่วกรอกหู หรืออาจยัด “ใบสั่ง” ให้จัดการกับกาตาร์เพื่อแลกกับของสมนาคุณบางอย่างเป็นการตอบแทน
หลายคนอาจกำลังสงสัยในบทบาทองค์การสหประชาชาติ ที่ออกจะเงียบหงอยเหงา ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ทั้งที่โลกทั้งใบกำลังจะลุกเป็นไฟด้วยเหตุความรุนแรงที่ปะทุขึ้นทั่วไปในหลายต่อหลายประเทศ….สหประชาชาติหายหัวไปมัวทำอะไรอยู่???
คำตอบที่น่าจะสะท้อนอาการ “เต่าหดหัว” หรือ “กิ้งกือขนดตัว” ขององค์การสหประชาชาติได้ชัดเจนแจ่มแจ๋วที่สุด น่าจะได้แก่การที่องค์การสหประชาชาติกำลังตกอยู่ในสภาพ “ถังแตก” …ชักหน้าไม่ถึงหลัง..รายรับไม่พอแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลให้องค์การสหประชาชาติขาดแคลน “น้ำเลี้ยง-น้ำหล่อลื่น”อย่างหนัก กระทั่งกลไกเกิดอาการสะดุดหยุดชะงัก
สหรัฐอเมริกาที่เคยเป็น “เจ้ามือรายใหญ่ที่สุด” ด้วยสัดส่วนการเติมเงินอุดหนุนงบประมาณขององค์การสหประชาชาติมากที่สุด ด้วยสัดส่วน 22 % สำหรับงบประมาณดำเนินงานปกติ และ 28.5 % สำหรับงบประมาณด้านการรักษาสันติภาพ มีการแสดงท่าทีชัดเจนในการ “ตัดเงินอุดหนุน” โดยสะท้อนผ่านถ้อยคำผู้นำประเทศอย่างโดนัลด์ ทรัมป์
หันไปดูเจ้ามือรายใหญ่ระดับรอง ๆลงไปอีก 9 ราย คือญี่ปุ่น-จีน-เยอรมนี-ฝรั่งเศส-อังกฤษ-บราซิล-อิตาลี-รัสเซีย-แคนาดา….แต่ละรายล้วนอยู่ในสภาพบักโกรก ลำพังดูแลเศรษฐกิจตัวเองยังแทบจะเอาตัวไม่รอด ดังนั้นโอกาสที่จะหวังให้เพิ่มวงเงินอุดหนุน ชดเชยกับส่วนที่จะ “ถูกตัด”จากสหรัฐอเมริกา จึง “สิ้นหวัง”
โลกยามนี้จึงไม่ต่างอะไรกับโลกที่ถูกลอยแพให้ผจญภัย…ผจญเวรผจญกรรมกันตามยถากรรม
โดย : ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค