แบรนด์หรือยี่ห้อเป็นทรัพย์สินที่ถือว่ามีมูลค่ามหาศาล การสร้างแบรนด์ให้มีพลัง สร้างความทรงจำ ความศรัทธาต้องอาศัยกลยุทธ์มากมาย แต่เมื่อแบรนด์กลายเป็นที่จดจำจะกลายเป็นอาวุธชั้นดี ในการผลักดันสินค้าให้ประสบความสำเร็จต่อเนื่องยาวนาน เร็ว ๆนี้มีข่าวการเปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่แบรนด์ ‘บาลองเซียก้า’ (Balenciaga) ที่มีหน้าตาคล้ายกับกระเป๋าฟรัคตา สำหรับใส่ของอเนกประสงค์จากร้านเฟอร์นิเจอร์อีเกีย จนหลายคนเชื่อว่าดีไซนเนอร์ได้แรงบันดาลใจจากกระเป๋าฟรัคตาของอีเกีย ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กระเป๋าฟรัคตาของอิเกียขายในราคาเพียง 99 เซนต์ หรือประมาณ 34 บาทเท่านั้นเนื่องจากผู้ผลิตใช้วัตถุดิบเป็นพลาสติก มีวัตถุประสงค์เพื่อใส่ของอเนกประสงค์ช้อปปิ้งในร้านอีเกียทั่วยุโรป แต่กระเป๋าบาลองเซียก้าทำจากหนังและตั้งราคาสูงถึง 2,145 ดอลลาร์ ประมาณ 73,752 บาท ก่อนหน้านี้บาลองเซียก้า ก็เคยสร้างความฮือฮาด้วยการออกแบบกระเป๋ารูปแบบคล้ายกับกระเป๋าสีรุ้งที่ขายในสำเพ็งบ้านเรา ซึ่งดีไซน์เนอร์ยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมามาจากกระเป๋าขนของจริง ๆ จากราคาหลักร้อยในบ้านเรา ปรับแต่งด้วยหนังอัพราคาสูงเกือบหลักแสน แน่นอนว่าราคาของสินค้าที่ขยับจากหลักสิบสู่หลักร้อย จนกลายเป็นหลักหมื่น หลักแสน นอกเหนือจากการใช้วัตถุดิบชั้นดีแล้ว อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือเป็นพลังแห่ง “แบรนด์” หรือ “ยี่ห้อ” นั่นเอง จึงไม่แปลกที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสร้างสรรค์สินค้าแบรนด์เนมของตัวเอง แทนที่จะเน้นรับจ้างผลิตให้ต่างชาติอย่างเดียว เหตุผลก็เพื่อความยั่งยืนในระยะยาวนั่นเอง