และแล้วการรอคอยก็ย่อมมีจุดสิ้นสุด สำหรับแยกในตำนาน “ทางลอดแยกมไหสวรรย์” ที่วันนี้รู้สึกอุ่นใจโล่งใจ เมื่อ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาเป็นประธานพิธีเปิดการจราจร ด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา “เป็นการปิดฉากตำนานแยกมไหสวรรย์” ของชาวฝั่งธนฯ ที่อดทนคอยวันนี้มานานแสนนาน 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 แยกแห่งนี้ กับ “รถติด” เป็นหนึ่งในของคู่กันกับฝั่งธน ที่ประชาชนซึ่งสัญจนไปมาต้องอดทน และ มีความศรัทธาว่าอุโมงค์แห่งนี้จะเสร็จ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จซะที จึงพากันขนานนามทางลอดหรืออุโมงค์ข้ามแยกแห่งนี้แบบประชดประชันอย่างหลากหลาย ที่ฟังแล้ว อย่าไปเครียดตาม ขอให้ฟังกันเป็นตำนานแบบขำขำ อย่างจริงจัง ในการร่วมปิดฉากการรอคอยอันยาวนาน เมื่ออยากเป็นส่วนหนึ่งมีส่วนร่วม ก็น่าจะทำได้ด้วยการย้อนไปหาสารพัด นามประชดประชันฉายา ของ แยกมไหสวรรย์ และ “ทางลอดหรืออุโมงค์ข้ามแยกแห่งนี้” เริ่มต้นที่ ชื่อเรียกขานประชดประชันแบบแสบถึงทรวง “แยกมไหนรก” ที่ว่ากันตรงๆ ตัว ถึงขนาดเปลี่ยนชื่อแยกกันไปเลยทีเดียว ถัดมา “แยกเจ็ดชั่วโคตร” แน่นอนว่าปัญหารถติด เป็นที่มาสำคัญของฉายานี้ (และใช้กับหลายๆ แยกในกทม.และปริมณฑล) อันดับต่อมา “อุโมงค์กาลเวลา” ชื่อเรียกเสมือนหนึ่งอุโมงค์ข้ามแยกแห่งนี้เป็นไทม์แมชชีน (โดเรมอน) ที่ย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้น (ก่อสร้าง) อยู่เสมอ ชื่อนี้เกรียนแบบแสบสันได้ใจจริงๆ ตามด้วยชื่อ “อุโมงค์แฮนด์เมด” แบบประชดประชัน เรื่องของการใช้ “มือ” แทนเครื่องจักรเลยเสร็จช้า ถัดมาเป็นชื่อยาวซักนิด “อุโมงค์ชาตินี้ เสร็จชาติหน้า” ชื่อนี้ไม่ต้องมีคำอธิบาย ต่อมาก็เป็น “อุโมงค์ที่ยาวที่สุดในปฐพี” คำว่า “ยาว” ไม่ใช่ระยะทาง แต่เป็นระยะเวลาการก่อสร้าง (ตามความหมายของคนให้ฉายา) และอีกชื่อ “อุโมงค์กลับชาติมาเกิด” ฉายานี้ก็แสบไม่เบา เมื่อกล่าวถึงรถติด ที่กลับชาติมาเกิดยังไม่ขยับ และ การก่อสร้างอุโมงค์ ที่ตายแล้วกลับชาติมาเกิดก็ยังไม่เสร็จซักที และสุดท้าย กับฉายา “แยกมไหสวรรย์ติดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์” ก็คือการจราจรที่ติดขัดได้ทุกวันเพราะการก่อสร้างอุโมงค์นั่นเอง แต่จะยังไงก็ตาม วันนี้ “โครงการก่อสร้างทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษก” (ทางลอดแยกมไหสวรรย์) ก็แล้วเสร็จ เปิดใช้อย่างเป็นทางการลดปัญหาการจราจร โดย “ผู้ว่ากทม.” กล่าวถึง วันนี้ที่รอคอยกับอุโมงค์ข้ามแยกแห่งนี้ว่า “โครงการก่อสร้างทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษก (ทางลอดแยกมไหสวรรย์) เป็นโครงการหนึ่งในโครงการแก้ไขปัญหาจราจรเร่งด่วนระยะกลางของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง โดยการก่อสร้างเป็นทางลอดสำหรับรถยนต์ตามแนวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีวัตถุประสงค์เพื่อลดจุดตัดกระแสจราจรบริเวณทางแยกมไหสวรรย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายการจราจรบนถนนสายหลัก ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาการจราจรได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลักษณะของโครงการเป็นทางลอดสำหรับรถยนต์ขนาด 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง ไป – กลับ โครงสร้างทางลอดมีความกว้าง 17 เมตร ความยาวทางลอด 887 เมตร ความสูงช่องลอด 5 เมตร ความยาวรวมทั้งโครงการ 1,515 เมตร เป็นทางลอดที่ยาวที่สุดในกรุงเทพมหานคร พร้อมงานระบบสำหรับทางลอด งานระบบระบายน้ำ งานระบบป้ายและเครื่องหมายจราจร งานปรับปรุงถนนเดิม และงานประกอบอื่นๆ ซึ่งเมื่อโครงการทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษกนี้เปิดใช้แล้ว จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรย่านฝั่งธนบุรี ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งในแนวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินและในแนวถนนรัชดาภิเษก ซึ่งถือว่าเป็นถนนวงแหวนรอบในของกรุงเทพมหานครให้มีความคล่องตัวมากขึ้น” สุดท้ายย้ำกันอีกที เรื่องฉายา ที่ฟังเอาฮาแบบไม่เครียด และไม่ไปซีเรียสเอาเรื่องเอาราวอะไรกับคนตั้ง เพราะสิ่งนี้ก็สะท้อนมาจากความรู้สึก ที่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต่างดีใจ ที่ “ทางลอดอุโมงค์แยกมไหสวรรย์” แล้วเสร็จซักที ปิดตำนาน ครึ่งทศวรรษ ที่เอาฉายามาให้ฟังกันขำขำแบบอารมณ์ดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์