สำหรับเหตุการณ์ “ระเบิด” ใน 7 จังหวัดภาคใต้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานตามวิถีทางของกระบวนการยุติธรรม การสืบสวนสอบสวนให้เป็นไปตามครรลองที่ถูกต้อง และอยากให้ทุกคนแจ้งเบาะแสเมื่อพบสิ่งผิดปกติ เป็นหูเป็นตาไม่ให้ใครมาทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
นายกฯยังได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของทหารที่ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกตกที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.ปาย และ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน โดยกล่าวว่าผู้ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ทุกคนล้วนเป็นผู้เสียสละ ทุ่มเทในการทำงาน สมกับเป็น “ทหารของพระราชา” ที่จะต้องมีหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส
นายกฯยังได้กล่าวถึงการอ่านบทวิเคราะห์ในหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนโดยชาวต่างประเทศ ซึ่งกล่าวถึง “ความล้มเหลวของประเทศ” ในโลกใบนี้ว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางการเมือง มากกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจทางการเมืองที่ไร้ธรรมาภิบาล อันเป็นต้นตอความไร้เสถียรภาพของบ้านเมืองและการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน ขณะที่หนทางสู่ความสำเร็จของประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการสร้างระบบการเมืองที่มีการถ่วงดุล ป้องกันการผูกขาดหรืออำนาจนิยม และส่งเสริมความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม ด้วยการมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งจะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้ประเทศรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ประเทศไทยของเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ให้แก่ปวงชนชาวไทยมากว่า 40 ปี ชาวโลกให้การยอมรับว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืน
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีการขยายตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และทำให้เศรษฐกิจทั้งปีนี้ GDP เติบโตได้ตามเป้าหมาย 3-3.5% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.1 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยร้อยละ 0.3 และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล เกือบ 3 แสนล้านบาท สอดคล้องกับเว็บไซต์บลูมเบิร์ก ที่รายงานว่าประเทศไทย “ครองแชมป์” ประเทศที่มี “ความทุกข์ยากน้อยที่สุดในโลก” จากทั้งหมด 74 ประเทศทั่วโลก หรือจะพูดว่าเป็นประเทศที่มี “ความสุขมากที่สุด” น่าจะเข้าใจง่ายกว่า จากความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “พลังประชารัฐ” ภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่มีการบูรณาการ และมีธรรมาภิบาล
ตัวอย่าง “ความเชื่อมโยง” พลังประชารัฐ ที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ ได้แก่ การประชุมยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” เช่น การประชุมของอธิการบดีแห่งประเทศไทยจากมหาวิทยาลัยรัฐ 27 แห่ง เพื่อนำงานวิจัยมาต่อยอด สร้างนวัตกรรม ให้ประสบความสำเร็จดังตัวอย่างหุ่นยนต์ชื่อ “ดินสอ” ที่เป็นการพัฒนาหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์รายแรกและรายเดียวของประเทศไทย ที่เป็นบริษัทของคนไทย 100% ส่งออกไปต่างประเทศ ไปเสิร์ฟอาหารที่ประเทศสวีเดน ไปดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น มีเป้าหมายผลิตและขาย 1 แสนตัว ภายใน 2 ปี ซึ่งรัฐบาลชุดนี้พร้อมสนับสนุนงานวิจัยและนักวิจัยอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรีปิดท้ายด้วยการขอให้สื่อใช้ช่องทางการสื่อสารด้วยความสร้างสรรค์ ยืนอยู่บนหลักการความจริง ไม่ใช่การ “ประโคมข่าว” ให้สังคมสับสน และขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวไทยแสดงความยินดี และขอชื่นชมนักกีฬาทุกคน ทุกประเภท รวมทั้งโค้ชและทีมงานที่ได้ทำหน้าที่ตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศอย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี ในกีฬาโอลิมปิก 2016