วันที่ 17 มีนาคม 2559 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ มีหนังสือด่วนถึงนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับโดยขอยุติการมอบหมายให้สมาคมฯเป็นผู้บริหารการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
ตั้งแต่ครั้งที่ 58 ในเดือนกันยายน 2559 เป็นต้นไป
ในหนังสือดังกล่าวได้ขอความร่วมมือให้สมาคมฯ
โอนถ่ายงานบางกอกเจมส์ที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด ฐานข้อมูลของ Visitor และ Exhibitor ทั้งในและต่างประเทศ
5 ปีย้อนหลัง รายงานงบดำเนินการ งบรายรับรายจ่าย งบกำไรขาดทุน
ของการดำเนินการบริหารการจัดงาน 5 ปีย้อนหลัง รวมถึงให้ส่งเงินรายได้ กำไรจากการจัดงานตั้งแต่ครั้งที่ 24 (กันยายน 2542) – ครั้งที่ 57 (กุมภาพันธ์ 2559) ซึ่งเป็นช่วงที่กรมฯมอบหมายให้สมาคมฯเป็นผู้บริหารการจัดงานรวมทั้งสิ้น
34 ครั้ง และข้อมูลอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการจัดงาน
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดงานครั้งต่อไป
แน่นอนว่าหนังสือฉบับดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ
โดยผู้บริหารสมาคมฯมองว่าเป็นการแจ้งอย่างกะทันหันอาจทำให้บุคลากรของสมาคมฯจำนวนหนึ่ง
ต้องตกงานทันที และสมาคมฯจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทประชาสัมพันธ์ บริษัทออแกไนเซอร์
บริษัทออกแบบ ที่ทำสัญญาว่าจ้างให้เข้ามาบริหารงานนี้ ในฐานะที่สมาคมฯต้องยกเลิกการว่าจ้างก่อนถึงวันสิ้นสุดตามที่ระบุในสัญญา
นายกสมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จึงได้ทำหนังสือตอบกลับถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพื่อยืนยันว่า สมาคมฯเป็นผู้ริเริ่มการจัดงานแสดงสินค้าดังกล่าวตั้งแต่พ.ศ.2526 แต่ด้วยขณะนั้นสมาคมฯไม่มีกำลังทางการเงิน จึงได้ไปติดต่อขอการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์สัมพันธ์
ซึ่งต่อมาคือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาสนับสนุน ฉะนั้นจึงไม่อาจปฏิบัติตามหนังสือของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการให้สมาคมฯส่งข้อมูลต่าง
ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม
การแถลงข่าวการจัดงานบางกอกเจมส์ครั้งล่าสุด ก็ยืนยันว่างาน
“บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 58 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 11 กันยายน
2559 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้บริหารการจัดงานเอง โดยนางมาลี โชคล้ำเลิศ
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
ครั้งที่ 58 ในปีนี้กรมฯจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเอง โดยเรียกสิทธิ์คืนจากเอกชนเดิมที่เคยจัด
เนื่องจากทางกรมฯ ต้องการปรับภาพลักษณ์ของงานพัฒนาสินค้าให้มีความแปลกใหม่ตามแนวโน้มตลาด เพื่อติดอันดับ 1 ใน 3 งานแฟร์ของโลกภายในปี
2561 โดยยังคงใช้ชื่องานและเครื่องหมายการค้าเดิม ส่วนเอกชนที่จัดงานเดิมสามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้าได้หรือจัดงานแสดงสินค้าเองก็ได้แต่ต้องไม่ซ้ำ
หรือใช้เครื่องหมายการค้าเดียวกับกรมฯเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับผู้เข้าร่วมงาน
ขณะเดียวกันการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยลดค่าเช่าพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานได้ร้อยละ
25 เนื่องจากกรมฯไม่ได้คาดหวังกำไรจากการจัดงาน แต่ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมและนำรายได้เข้ากองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
พรชัย ชื่นชมลดา
อดีตนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยกับสำนักข่าว THAIQUOTE
ว่า การดึงงานบางกอกเจมส์กลับไปจัดเองถือเป็นสิทธิ์ของกรมฯที่ทำได้
เนื่องจากงานบางกอกเจมส์เป็นลิขสิทธิ์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ถ้ากรมฯเห็นว่าสมาคมฯทำไม่ได้ตามประสิทธิภาพที่ต้องการ
และคิดว่าหากนำกลับไปจัดเองแล้วจะทำได้ดีกว่า ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้
ทั้งนี้
รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
จึงได้เร่งพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการในหลากหลายมิติเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ
พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ อาทิการผลักดันแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางมาตรการภาษี
การแสวงหาวัตถุดิบอัญมณี การส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ การพัฒนาสินค้าและการสร้างมูลค่าเพิ่ม
การเจาะตลาดต่างประเทศ โดยประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในปีที่ผ่านมาประมาณ
3.5 แสนล้านบาท