1. กระดาษ
มีสัญญาณมาก่อนหน้านี้หลายปีว่ากระดาษเริ่มถูกลดบทบาทลง ธุรกิจหนังสือถูกปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
หลายองค์กรรณรงค์ลดใช้กระดาษแม้กระทั่งการส่งเอกสารหรือที่รู้จักกันดีในนามของแฟกซ์ก็แทบจะไม่มีให้เห็นในปัจจุบัน
ทุกอย่างสื่อสารกันทางไลน์ เฟซบุ๊ค และ อีเมล์
2.
โทรศัพท์บ้าน ทุกวันนี้โทรศัพท์พื้นฐานหลาย ๆบ้านเป็นเพียงสิ่งของประดับชิ้นหนึ่งที่ถูกวางทิ้งไว้โดยแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์
และบางคนอาจลืมไปด้วยซ้ำว่าเบอร์โทรศัพท์บ้านของตัวเองเบอร์อะไร
เนื่องจากมันถูกแทนที่ด้วยโทรศัพท์มือถือนั่นเอง
3. บัตรเครดิต
ภายในปี 2020 สมาร์ทโฟนจะเข้ามาทำหน้าที่ทางการเงินแทนบัตรเครดิต
สามารถจ่ายสินค้าโดยการบอกรหัสหรือเบอร์โทรศัพท์ โดยไม่ต้องเสียเวลารูดบัตร
ตรวจสอบเช็ครายละเอียดข้อมูลและรอเซ็นต์กำกับความถูกต้องจนคนข้างหลังต้องต่อคิวยาวเหยียด
4. กระเป๋าสตางค์ เมื่อสมาร์ทโฟนบริหารจัดการทางการเงินได้ทุกอย่าง
ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กระเป๋าสตางค์เพื่อใส่บัตรต่าง ๆอีกต่อไป
5. โรงภาพยนตร์
สิ่งที่เริ่มสัมผัสในวันนี้คือการโปรโมชั่นภาพยนตร์ใหม่ ๆให้ดูผ่านโทรศัพท์มือถือ
3-4 เรื่องต่อสัปดาห์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถดูหนังเรื่องโปรดได้ หากต้องการระบบเสียงรอบทิศทางก็เพียงแค่ต่อเข้ากับเครื่องเล่นซึ่งสามารถหาซื้อได้ในราคาไม่แพงมาก
ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้าไปนั่งดูในโรงภาพยนตร์ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ซบเซาและเลิกราไป
เหมือนกับโรงภาพยนตร์ชั้น 2 ที่วันนี้แทบไม่มีให้เห็นกันแล้ว
6. เคเบิลทีวี ปัจจุบันยอดสมาชิกหดหายไปเรื่อย ๆ เนื่องจากคนหันไปหาทีวีอินเตอร์เน็ตที่มีสตอรี่ให้เลือกหลากหลายกว่า
มีความสะดวกสบายมากกว่า ได้รับประโยชน์ครอบคลุมกว่า
7. พนักงานฟาสต์ฟู้ด
ด้วยสภาพการใช้ชีวิตที่เร่งรีบทำให้ผู้คนต้องการความรวดเร็ว
การเข้าร้านฟาสต์ฟู้ดจึงต่างจากอดีต ซื้ออาหารแล้วออกไปทานข้างนอก หรือรีบทานรีบไป
เพราะฉะนั้นการบริการจึงแทบไม่มีความหมายมากไปกว่าสินค้าที่ลดราคาพิเศษ
8. อุปกรณ์เก็บข้อมูล (Storage media) สมัยก่อนเราเก็บข้อมูลด้วยซีดี แผ่นดิสก์ จากนั้นก็พัฒนามาเป็นทัมป์ไดร์ฟ
เมมโมรี่การ์ดประเภทต่างๆ แต่ในอนาคตอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่มีความหมายอีกต่อไป
เมื่อโลกดิจิตอลได้เชื่อมข้อมูลเรียกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้
9. รถแท็กซี่แบบเก่า
การเข้ามาของแกร็บแท็กซี่และอูเบอร์ทำให้อุตสาหกรรมนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด
คุณไม่จำเป็นต้องออกไปรอเรียกแท็กซี่แล้วได้รับการปฏิเสธหรือให้บริการที่ไม่คุ้มกับค่าบริการ
และไม่จำเป็นต้องพกเงินให้วุ่นวาย เพราะแท็กซี่แนวใหม่สามารถจ่ายได้ด้วยสมาร์ทโฟน
ถ้าเจ้าของอู่แท็กซี่แบบเดิมไม่ปรับตัว ก็คงต้องปิดตัวเองไปในที่สุด
10. คนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากบริษัทรถยนต์พยายามผลิตรถยนต์เทคโนโลยีใหม่
ๆออกมา เช่น รถยนต์ไร้คนขับ แน่นอนว่าย่อมรวมถึงรถแท็กซี่ด้วย
ที่ในอนาคตอาจไม่มีความหมายอีกต่อไป