วันที่
1 เมษายนของทุกปีเป็น“วันข้าราชการพลเรือน”เป็นวันแห่งความภาคภูมิใจ ที่สำคัญข้าราชการทุกแขนงล้วนทำงานต่างพระเนตรพระกรรณในกิจการของพระราชา
หรือลดภาระของพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นในคำว่า “ข้าราชการ”นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ที่มีทั้งอำนาจ บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ จำเป็นอย่างยิ่งที่ข้าราชการต้องมีจิตสำนึกที่ดี
ประพฤติดีที่เรียกว่า “ธรรมาภิบาล” 6
ประการ ได้แก่ หลักคุณธรรม, หลักนิติธรรม, หลักความโปร่งใส, หลักความมีส่วนร่วม, หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ทั้งนี้รัฐบาลปัจจุบันได้ยึดถือและนำมาประยุกต์ใช้เป็นหลักการทำงานร่วมกันในสังคม
ที่สำคัญก็คือคำว่า “ประชารัฐ” ในการรักษาความสมดุลระหว่างหลักการทั้ง
6 ประการในทุกมิติทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก็จะทำให้การบริหาราชการแผ่นดินไม่ติดกับดัก
หรือพบทางตัน
ในการนี้ผมขอให้ข้าราชการทุกคนได้อัญเชิญยุทธศาสตร์พัฒนา
“เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และ “หลักการทรงงาน
23 ประการ”ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาเป็นแนวทางในการทำงาน
เอาชนะอุปสรรคในการทำงานได้ด้วยปัญญา เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยให้มีความมั่นคง
มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
สำหรับประเด็นสำคัญอื่น
ๆที่น่าสนใจคือเรื่องในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น นับเป็น“สนิมเนื้อใน”กัดกร่อนสังคมและเศรษฐกิจไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานในช่วง
3 ปีที่ผ่าน โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency
International) ได้จัดลำดับประเทศไทยมีความโปร่งใส ขยับขึ้นจากเดิม
9 อันดับ โดยเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย และอันดับที่
76 ของโลก อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้กำหนดให้การปราบปรามการทุจริตเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยรัฐบาลหวังว่าการใช้หลักสูตร
“โตไปไม่โกง” ในโรงเรียนทั่วประเทศ
และการรณรงค์ “สำนึกไทยไม่โกง” ผ่านภาพยนตร์สั้น
4 เรื่อง ได้แก่ 1. คนโกงเราต้องแฉ เรื่องโกงเราต้องแชร์ 2. คนอย่างนี้ก็มีด้วย
3.ทริปห้องกรง และ 4.กรรมติดจรวด
ในการสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วยกลไกประชารัฐ
ส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงในเรื่องของ“ห่วงโซ่อุปทาน”ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ประสานสอดคล้องกันทั้งในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน
อาเซียน ประชาชาคมโลกอื่นๆ โดยได้ดำเนินการดังนี้
1.การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในประเทศ
ที่มุ่งเน้นการระเบิดจากข้างใน เช่น
การสนับสนุนการจัดตั้งกิจการที่เป็นประโยชน์แก่คนในชุมชน หรือ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” (Social Enterprise) โดยดำเนินการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2.เรื่องที่สองคือการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคม
โดยอาศัยความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เช่น ประชาคมอาเซียน หรือกลุ่ม CLMVT
,กลุ่ม G77 ในปีนี้ไทยเป็นประธานอยู่ หรือกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง
– ล้านช้างที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำในภูมิภาค
ภายใต้วิสัยทัศน์ “แม่น้ำสายเดียวกัน มีอนาคตร่วมกัน”
หรือ “Shared River, Shared Future”
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่สำคัญในขณะนี้คือเรื่องน้ำ
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่มีปัญหามากที่สุด ขณะนี้รัฐบาลกำลังปรับทุกอย่างหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดสรรหาน้ำมาให้ประชาชน
ดังนั้นผมได้มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงวิทยาศาสตร์ แล้วก็สวทช.ไปวิจัยและพัฒนาด้วย หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องไปร่วมพิจาณาให้ได้ผลสัมฤทธิ์อย่างรวดเร็ว
ดูตัวอย่างประเทศใกล้ ๆ สิงคโปร์ – อิสราเอล
หลายประเทศเขาทำอย่างไร เราต้องเตรียมการตั้งแต่บัดนี้
นอกจากนี้ได้เตรียมการในเรื่องของการจัดทำโครงการรีไซเคิลน้ำที่ใช้แล้ว ในปีนี้ต้องมีการรีไซเคิลน้ำ
ให้ได้ประมาณ 20-30% ในทุกกิจการ อย่างน้อยก็ทุเลาหรือบรรเทาความขาดแคลนน้ำไปได้บ้าง
แต่ต้องเป็นน้ำที่บริสุทธิ์แล้ว ทำให้สะอาดแล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานในเรื่องของ
“
เพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้” ณ
ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปจำนวนมาก
มีเงินทุนหมุนเวียนในงานกว่า 24 ล้านบาท ในช่วงเดือนเมษายนนี้กระทรวงศึกษาธิการจะเป็นเจ้าภาพจัดงานโดยการบูรณาการงานเข้ามาในพื้นที่ตลาดคลองผดุงฯ
ภายใต้แนวคิด“การศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงฯ สร้างสุข”
ก็จะแบ่งงานออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกวันที่ 1-11 เมษายน
เป็นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซึ่งผลิตและจัดทำโดย นักเรียน
นักศึกษาและประชาชนในราคาย่อมเยา
เรื่องเทศกาลวันที่
12 ถึง 15 นี่นะครับเทศกาลสงกรานต์จะมีการสรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้อาวุโส
แล้วก็ร้องเพลงฉ่อยลอยลำในคลองผดุงกรุงเกษม การประกวดร้องเพลงผู้สูงอายุ
ประกวดเทพีสงกรานต์
ช่วงที่สุดท้าย
วันที่ 16-24 ก็ จัดงาน “Back to School” จัดจำหน่ายชุดนักเรียนระดับอนุบาล
– ระดับมัธยมศึกษา อุปกรณ์การศึกษาและอื่น ๆที่มีการจัดบูธจำหน่ายสินค้าตามโครงการพระราชดำริ
สินค้าจาก อ.ต.ก. ที่มีคุณภาพดี ร้านค้าสวัสดิการเพื่อประประชาชน
และสินค้าประชารัฐ ในราคาที่ย่อมเยาในตลาดคลองผดุงกรุงเกษม มีการบริการต่างๆ
มากมายเพื่อประชาชน ทั้งในเรื่องการซ่อมสร้างเพื่อชุมชน การนวดแพทย์แผนไทย
บริการตัดผม การแสดงดนตรี การละเล่นพื้นบ้าน ของนักเรียน นักศึกษา
และกิจกรรมสาระบันเทิงอื่นๆ ขอให้แต่งกายให้เรียบร้อย