พปชร.ลงพื้นที่ ชัยภูมิ เปิดตัว 6 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

พปชร.ลงพื้นที่ ชัยภูมิ เปิดตัว 6 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.


“สุริยะ-สมศักดิ์” นำทีมลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 6 เขต ย้ำนโยบาย แปลง สปก.เป็นโฉนด สานต่อนโยบายรัฐ เพิ่มโรงงานภาคอีสาน เพื่อพี่น้อง “สร้างรายได้-ไม่ต้องจากบ้าน” สุริยะ “อดิศร” ด่าหยาบคาย ไม่โกรธ-ไม่เกลียด แค่อยากให้รู้ใครเสนอชื่อให้เป็นรมช.คมนาคม

วันที่ 21 ม.ค.2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำภาคอีสาน อย่างเช่น นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุพร อัตถาวงศ์ ร่วมกันลงพื้นที่ อำเภอห้วยสถิต อำเภอภูเขียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โดยในแต่ละพื้นที่มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

 

นายสมศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า โดยส่วนตัวตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่แรก เพราะต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง และพรรคพลังประชารัฐนั้นก็เป็นทางสายกลาง ซึ่งพรรคก็สามารถต่อยอดนโยบายของรัฐบาลได้ อาทิ บัตรผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการช่วยเหลือราคาพืชผลทางการเกษตร อย่าง ข้าว ที่จะออกเป็นกฎหมาย ส่วนเรื่องสปก. ยืนยัน ต้องเดินหน้าเป็นโฉนด ให้สามารถเปลี่ยนมือได้ แต่ต้องทำเกษตร และตนเชื่อว่า สิ่งที่เราเสนอทำได้จริงและจะถูกใจประชาชน

ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตนจะเสนอตั้งโรงงานที่ภาคอีสานให้มากขึ้น ประชาชนจะได้ไม่ต้องจากบ้าน ได้ใกล้ชิดครอบครัว และมีรายได้กันมากขึ้น ทุกนโยบายเราทำเพื่อประชาชน โดยไม่คิดถึงสิ่งอื่นใด ดังนั้นขอแค่พ่อ แม่พี่น้องให้โอกาสเรา เราจะพาประเทศเดินหน้า ทั้งเรื่องปากท้อง และก้าวข้ามความขัดแย้ง

 

ทั้งนี้ ภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่ดูจังหวัดชัยภูมิ พบว่าประชาชนอยากฟัง เรื่อง สปก. เรื่องวัว และอ้อย ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการทำมาหากินของประชาชน โดยแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ ได้มีแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน คิดว่า เมื่อนำเสนอจะถูกใจประชาชน รวมถึงจะมีการเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตร และการยกระดับผู้มีรายได้น้อย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านทั้งสองคนกลายเป็นเป้าถูกพาดพิงมาโดยตลอด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่านายสุริยะ เป็นแกนนำหาเสียง และตนเองก็ออกมาลงพื้นที่ตั้งแต่เริ่มต้น ก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีการตัดกำลังพลังประชารัฐ ซึ่งสิ่งที่ฝั่งตรงข้ามพูด ก็มีแต่เรื่องที่ทำลายล้างกันทางการเมือง แต่พลังประชารัฐ จะพูดนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นหลัก

ด้านนายสุริยะ กล่าวถึงกรณีที่ถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปรามาสว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส.ส.เกิน 150 คน จะให้ไปยื่นด่าหน้าบ้าน ว่า ร.ต.อ.เฉลิม นิสัยก็เป็นแบบนี้ ชอบสร้างความขัดแย้ง ขอเสนอให้ร.ต.อ.เฉลิม เสนอนโยบายแข่งกัน อย่าด่ากัน เพราะไม่เป็นประโยชน์ ส่วนสิ่งที่ตั้งเป้าหมาย 150 คน เนื่องจากคิดว่า รัฐบาลปัจจุบันมีการดูแลประชาชน โดยเฉพาะภาคอีสานเป็นอย่างดี ในการทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น รวมถึงการดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ จะนำนโยบายที่ดีมาต่อยอด จึงเชื่อว่าจะได้ใจประชาชน

เมื่อถามว่า นายอดิศร เพียงเกษ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า นายสุริยะไม่เข้าใจการเมืองภาคอีสาน นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าเขาเข้าใจก็ไปอธิบายภาคอีสาน ส่วนตนก็จะอธิบายในแบบของตน ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงด้วย ตนคิดว่าถ้าคะแนนเสียงเขาดีอยู่คงไม่มาต่อล้อต่อเถียงกับตน เพราะเขารู้ว่ากระแสไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด แต่กระแสพลังประชารัฐกำลังมาแรง

เมื่อถามว่า นายอดิศร ออกมาต่อว่าด้วยถ้อยคำที่เหยียดหยามและรุนแรง นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่ถือสา ที่นายอดิศร ออกมาบอกว่า ตนสติดีอยู่หรือไม่ โดยอยากบอกว่า นายอดิศร ทราบดี ตอนพรรคไทยรักไทย ตนเป็นคนเสนอชื่อนายอดิศร เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม และตอนที่ทำงานร่วมกับ กระทรวงคมนาคมก็มีผลงาน อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ

 

“นายอดิศร มักไปตีกอล์ฟกับพี่ชายผม และบอกว่าสนิทสนมกับผม เคยทำงานร่วมกัน สมัยเป็นรัฐมนตรี นายอดิศรยังเคยให้พี่ชายของผมต่อสายคุยกัน และชื่นชมผมเป็นอย่างดี ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า เมื่อเราอยู่กันคนล่ะพรรค นายอดิศร ก็มาพูดสิ่งตรงข้ามกับที่มาพูดกับผมตลอดเวลา และขอยืนยัน ไม่โกรธ ไม่เกลียด แต่ไม่อยากเสียเวลามาตอบโต้กับคนแบบนี้” นายสุริยะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐทั้ง 6 เขต ของจังหวัดชัยภูมิ คือ นายวสันต์ กล้าแท้ เขต 1 นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ เขต 2. นาย

สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ เขต 3 นายสุขสันต์ ชื่นจิตร เขต 4 นายพีระพล ติ้วสุวรรณ เขต 5 นายอภิสิทธิ์ เวียนวิเศษ เขต 6