ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ชี้แจงปมพิจารณางบประมาณประจำปี 2563 รวมทั้งงบจัดงานบิ๊กแบง และเดินทางร่วมงานเว็บซัมมิท ยันทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน วอนอย่าตัดทอนข้อมูล-สร้างความสับสน พร้อมร่วมกับทุกภาคส่วนที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทย

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ชี้แจงกรณีที่โครงการของดีป้าถูกพาดพิงในที่ประชุมสภาฯ ระหว่างการพิจารณางบประมาณปี พ.ศ. 2563 ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า กระบวนการทำงานของดีป้ามีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ยินดีให้ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ดร.ณัฐพล กล่าวว่า จากกรณี ที่มีการกล่าวพาดพิงถึงโครงการ Digital Thailand Big Bang 2019 ในเรื่องของการเช่าพื้นที่ ขอเรียนว่าในการเลือกสถานที่จัดงานมหกรรมด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติ ในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีให้เลือกมากนัก ซึ่งการกลั่นกรองคัดเลือกพื้นที่มาจากหลากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยด้านเวลาที่ควรจัดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อสร้างการจดจำในวงกว้างว่าช่วงเดือนดังกล่าวประเทศไทยจะมีงานมหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะเดินทางมาร่วม รวมถึงความสะดวกในการเดินทางของผู้ร่วมงานก็เป็นสิ่งที่ดีป้าให้ความสำคัญ ซึ่งการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ได้ใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงสำหรับการเช่าพื้นที่

เนื่องจากมีความคุ้มค่าและประหยัดงบประมาณ ส่วนการจัดจ้างการดำเนินงานนิทรรศการใช้กระบวนการอี-บิดดิ้ง (e-bidding) ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 ทุกประการ อีกทั้งผลการสรุปการจัดงาน ก็ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทั้งผู้เข้าชมงานกว่า 580,000 คน เป็นตัวแทนสถานทูตกว่า 24 ประเทศ เกิดความร่วมมือระดับนานาชาติมากมายภายในงาน สร้างมูลค่าการเจรจาทางธุรกิจกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างผ่านทางเว็บไซต์ดีป้านั้น ทางดีป้า เพิ่งจัดตั้งสำนักงานฯ มา 2 ปี จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศด้วยดิจิทัล โดยการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้มีความทันสมัย เข้าถึงบริการและข้อมูลของสำนักงานได้ง่าย ซึ่งในช่วงปี 2562 เป็นการเปลี่ยนโอนถ่ายข้อมูลจากฐานเดิมมายังหน้าเว็บไซต์ใหม่ คือ www.depa.or.th
ซึ่งอาจพบปัญหาทางด้านเทคนิคในช่วงโอนถ่ายข้อมูล แต่ปัจจุบันได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้บริการประชาชนอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผยแพร่รายงานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเชื่อมโยงไปยังระบบจัดซื้อจัดจ้างกลางของประเทศ ที่กรมบัญชีกลางเป็นผู้ดูแล ดังนั้น ผู้อภิปรายไม่ควรนำเสนอข้อมูลที่ไม่ใช่ปัจจุบัน หยิบยกมาเป็นประเด็นอภิปรายในสภาฯ จนสร้างความสับสนให้กับผู้ที่เข้าร่วมประชุม ตลอดจนประชาชนทั่วไป

สำหรับอีกกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ดีป้า ไปดูงาน Web Summit ที่โปรตุเกส ซึ่งบิดเบือนและให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากการเดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าว ดีป้า ร่วมมือกับ สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (Thailand Tech Startup Association : TTSA) พา Digital Startup ทั้งสิ้น 10 บริษัท ได้แก่ StockRadars, QueQ, Arincare, Claim Di, GIZTIX, MyCloudFulfillment, Globish, Event Banana, FoodStory และ Bellugg เข้าร่วมและจัดแสดงนิทรรศการ เพื่อสร้างช่องทางการต่อยอดทางการตลาด และจับคู่ทางธุรกิจให้กับวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นไทย พร้อมสร้างโอกาสให้กับสตาร์ทอัพของไทย เข้าถึงเครือข่ายและนักลงทุนระดับโลก ส่งเสริมให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งการเติบโตทางธุรกิจและโอกาสในการลงทุนกว่า 300 ล้านบาท อันเป็นการนำไปสู่การเพิ่มระดับขีดความสามารถของดิจิทัลสตาร์ทอัพในบ้านเรา ตลอดจนสร้างการเติบโตในต่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย พร้อมยืนยัน ทุกกระบวนการดำเนินงานการ คัดเลือกดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยที่ได้รับการสนับสนุนนั้น โปร่งใส่เป็นไปตามกระบวนการทุกขั้นตอน
“การทำงานของดีป้า อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของผมมั่นใจว่าโปร่งใส่ และเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งหากมองเห็นว่า การทำงานของดีป้า อาจสุ่มเสี่ยงกับความไม่โปร่งใสใด ๆ ผมยินดีให้ตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ดีป้าไม่ได้ต้องการแข่งขันกับใคร แต่ยินดีส่งเสริมสนับสนุนในทุกด้านที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศ ร่วมกับทุกภาคส่วน โดยไม่แบ่งแยกพร้อมร่วมขจัดความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศเป็นไปอย่างก้าวหน้าและยั่งยืน” ผอ.ใหญ่ดีป้า กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ตรุษจีนปี 63 อำนาจในการซื้อลดลง ส่งผลหดตัว 3 % เหลือมูลค่า 13,150 ล้าน
