ทันโลก! “ผู้สูงวัย”ขานรับสังคมยุคดิจิทัล ซื้อออนไลน์เพิ่ม แถมชอบเที่ยว

ทันโลก! “ผู้สูงวัย”ขานรับสังคมยุคดิจิทัล ซื้อออนไลน์เพิ่ม แถมชอบเที่ยว


ขานรับดิจิทัล! “ผู้สูงวัย”ก้าวทันโลก นิยมซื้อออนไลน์เพิ่ม แถมชอบท่องเที่ยวผ่านแอพฯถึง 30% ชี้!ธุรกิจ Digital Health น่าจับตา คาดอีก 5 ปี โตก้าวกระโดด 209%

เปิดผลสำรวจอินไซด์ผู้สูงอายุ เผยเกือบครึ่งเคยซื้อออนไลน์ แต่สินค้าในกลุ่ม บริการด้านการเงิน การออกกำลังกายและอาหารเสริม และการดูแลสุขภาพพื้นฐาน ไม่นิยมซื้อทางออนไลน์ และผู้บริโภคอายุระหว่าง 51-60 ปี ที่นิยมซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านเว็บไซต์กับแอปพลิเคชันมากกว่า เฟซบุ๊กและไลน์ ชี้ธุรกิจ Digital Health น่าจับตา คาดอีก 5 ปี โตก้าวกระโดด 209%

 

 

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า การจัดงาน Good Living for Aging Society ครั้งที่ 4 ในโซนกิจกรรมภายในงาน Money Expo Year-End 2019 โดยตลอด 4 วันมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคทั้งกลุ่มผู้วางแผนเกษียณอายุ ผู้ที่เกษียณอายุแล้ว และกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ ตื่นตัวกับการปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมผู้สูงอายุด้วยความเข้าใจ

ทั้งนี้ ผลสำรวจผู้เข้าร่วมงานในปีนี้ พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุเคยมีการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ โดยกลุ่มอายุ 51-60 ปี ที่ซื้อสินค้าทางออนไลน์ นิยมซื้อผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น มากกว่าช่องทางเฟซบุ๊กและไลน์ ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุไม่ได้ซื้อสินค้าในหมวดหมู่ บริการด้านการเงิน การออกกำลังกาย/อาหารเสริม และการดูแลสุขภาพพื้นฐาน เนื่องจากต้องการการสอบถามและได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มีข้อมูลครบถ้วนน่าเชื่อถือประกอบการตัดสินใจอย่างละเอียด

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงสถิติการใช้แอปพลิเคชั่นของผู้สูงวัย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 51-60 ปี ซึ่งเริ่มก้าวเข้าสู่วัยเกษียณมีไลฟ์สไตล์ชอบท่องเที่ยว นิยมใช้แอปพลิเคชั่นด้านท่องเที่ยวถึง 30% รองลงมาเป็นแอปพลิเคชั่นด้านการถ่ายภาพและวิดีโอถึง 22% สูงกว่าการใช้แอปพลิเคชั่นด้านการเงินและโซเชียลมีเดีย

สำหรับกลุ่มคนในช่วงอายุนี้ซึ่งยังพบอีกว่า กลุ่มอายุ 51-60 ปี ที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊กและไลน์ ให้ความสนใจในการติดตามหมวดหมู่เรื่องการแพทย์และสุขภาพถึง 21% ถึงแม้จะน้อยกว่าหมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่ม (25%) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอายุ 41-50 ปี (11%) และ 61-70 ปี (14%) ก็พบว่าคนกลุ่มอายุ 51 ปีขึ้นไป โดดเด่นในเรื่องความสนใจด้านสุขภาพอย่างเห็นได้ชัด อันดับรองลงมาคือ หมวดหมู่ด้านข่าวสารและความบันเทิง

ส่วนด้านการลงทุนเป็นอีกตัวช่วยให้ผู้สูงอายุวางแผนจัดการเงินในวัยเกษียณ โดย นพ.มนต์สรร อัศวนพเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายระบบประกันและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้มุมมองว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ปัจจุบันที่มีนวัตกรรมการ พัฒนายาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยโรคร้ายต่าง ๆ ทำให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในช่วง 10 – 20 ปี

นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ.แอสเซท พลัส จำกัด ชี้จุดว่าการลงทุนธุรกิจเฮลธ์แคร์รับเทรนด์ Digital Health กำลังได้รับความสนใจทั่วโลก เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนาอุสาหกรรมเฮลธ์แคร์ ทำให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มดังกล่าว หรือกองทุนระยะยาว มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยเฉพาะใน กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค ซึ่งเป็นอนาคตใหม่แห่งวงการสุขภาพ ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ยอดขายยาที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีชีวภาพ เติบโตเพิ่มขึ้น 85% และคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า การพัฒนาจะช่วยเพิ่มการเติบโตสูงถึง 209%

นายราชันย์ ตันติจินดา CFP นักวางแผนการเงิน ยังได้แนะการเลือกออมเพื่ออนาคตที่มั่นคงทางสุขภาพ เพราะจากสถิติกลุ่มผู้ที่มีอัตราเข้าโรงพยาบาล และอัตราค่าใช้จ่ายต่อปีค่อนข้างสูง เช่น กลุ่มคนอายุ 61 – 70 ปี จากสถิติเข้าโรงพยาบาล 8-10 ครั้งต่อปี

โดยคิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 10,000 – 16,000 บาทต่อปี จึงควรเลือกลงทุนเพื่ออนาคตที่รองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งมีหลากหลายประเภท เช่น ประกันบำนาญ ที่ไม่ต้องรอเกษียณก็สามารถทำได้ หุ้นกู้เอกชน หรือตราสารหนี้เอกชน

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ

ครม. อนุมัติ เป้าหมายเงินเฟ้อ ปี 63 ที่ 1-3 %