คมนาคม ชงครม.ต่อสัมปทาน 15ปี 8เดือน แลก 17 คดี 1.37 แสนล.กับ BEM

คมนาคม ชงครม.ต่อสัมปทาน 15ปี 8เดือน แลก 17 คดี 1.37 แสนล.กับ BEM


คมนาคม เผย ได้ข้อสรุปปมพิพาทกับ BEM แล้ว เตรียมเสนอ ครม. พิจาณา พรุ่งนี้ โดยจะต่อสัญญาสัมปทานให้อีก 15 ปี 8 เดือน แลกกับ ข้อพิพาท 17 คดี มูลค่า 1.37 แสนล้าน พร้อมกำหนดเงื่อนไขการขึ้นค่าผ่านทางปีละ 1 บาท เก็บได้ในปีที่ 10 ชี้ หาก ครม.เห็นชอบ ทำสัญญาใหม่ พร้อม ถอนฟ้องคดีเสร็จภายใน 29 ก.พ. 63

วันนี้ (23 ธ.ค.62) นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เปิดเผยว่า คณะทำงานฯได้ข้อยุติข้อพิพาทจากการเจรจากับ BEM โดยให้มีการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน แลกกับข้อพิพาททั้งหมด 17 คดีที่มีมูลค่าข้อพิพาท 1.37 แสนล้านบาท ซึ่งได้เจรจายุติที่ 58,873 ล้านบาท โดยจะไม่มีการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck เพราะไม่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทจึงจะนำเอามาเจรจาร่วมไม่ได้ โดยกระทรวงคมนาคมจะนำเสนอผลการเจรจาเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้(24 ธ.ค.62)

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาแนวทางการยุติข้อพิพาทโดยการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 สัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน D) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด โดยต่อขยายระยะเวลาสัมปทานทั้ง 3 สัญญาออกไปสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ต.ค.78 (รวม 15 ปี 8 เดือน นับจากวันที่สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน AB และ C สิ้นสุดลง) โดยไม่มีการลงทุนปรับปรุงทางด่วน (Double Deck)

สำหรับการต่อสัญญาโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน A, B, C) จากที่จะสิ้นสุดสัมปทานในวันที่ 29 ก.พ.63 และสัญญาใหม่จะสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.78 , ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D สิ้นสุดสัมปทานวันที่ 22 เม.ย.70 ต่อสัญญาใหม่สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.78 หรือได้ขยายเวลา 8 ปี 6 เดือน และ ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน C+(สายบางปะอิน-ปากเกร็ด) สิ้นสุดสัมปทานวันที่ 27 ก.ย.69 ได้ต่อสัญญาใหม่สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.78 หรือได้ขยายเวลา 9 ปี 1 เดือน

นอกจากนี้ ในส่วนของค่าผ่านทางให้ปรับขึ้นปีละ 1 บาท แต่ให้เก็บในปีที่ 10 หรือในปี 73 จะเก็บค่าผ่านทางเพิ่ม 10 บาท โดยจะยกเว้นค่าผ่านทางในวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศ ซึ่งในปี 63 มีวันหยุดรวม 19 วัน และส่วนแบ่งรายได้คงสัดส่วนเดิมที่ 60/40 ทั้งนี้เอกชนได้ตอบรับเงื่อนไขและยินดีให้ความร่วมมือ

” หาก ครม.วันพรุ่งนี้มีมติเห็นชอบแนวทางดังกล่าวแล้ว กระทรวงฯ จะแจ้งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งเจรจากับ BEM และส่งผลการเจรจาเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 และส่งร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา เพื่อดำเนินการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 68 ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ให้แล้วเสร็จก่อนที่สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A, B และ C จะสิ้นสุดลงในวันที่ 29 ก.พ.63 ทั้งนี้จะลงนามภายในเดือน ม.ค.63 โดยสัญญาใหม่จะมีผลเมื่อทั้งสองฝ่ายถอนฟ้องคดีข้อพิพาทให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 29 ก.พ.63″ นายชัยวัฒน์กล่าว

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
กรมศุลฯ จ่อวางระบบ เช็ก “ผัก-ผลไม้” จีนก่อนนำเข้าให้มีคุณภาพ