รัฐออกขวัญปีใหม่อัดฉีดกองทุนหมู่บ้าน ฟื้นเศรษฐกิจประชารัฐ

รัฐออกขวัญปีใหม่อัดฉีดกองทุนหมู่บ้าน ฟื้นเศรษฐกิจประชารัฐ


รัฐบาลเตรียมของขวัญปีใหม่อัดฉีดกองทุนหมู่บ้าน ฟื้นเศรษฐกิจประชารัฐสร้างไทย จัดสรรเท่ากันทุกกองทุน หวังให้แต่ละหมู่บ้านไปจัดการโครงการที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของแต่ละท้องถิ่น

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนแห่งชาติ เพื่อส่งสัญญาณให้ตัวแทนจากกลุ่มชาวบ้าน ศึกษาแนวทางการพัฒนาชุมชน ตามพื้นที่ต้องการพัฒนาสอดคล้องในแต่ละภูมิภาค ในการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพราะมีแผนจัดสรรเงินผ่านกองทุนหมู่บ้านให้กับชุมชน เป็นจำนวนเท่ากันทุกชุมชนทั้งหมด 79,000 กองทุน คาดว่าคงจัดสรรได้ก่อนสิ้นปี เพราะแต่พื้นที่มีความต้องการแต่ต่างกัน เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมกันสร้างที่พักโฮมสเตย์ การสร้างยุ้งฉาง ปั้มน้ำมันชุมชน หรือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ขณะนี้รัฐบาลกำลังศึกษาช่องทางแหล่งทุน เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีทุนในการพัฒนาหมู่บ้าน คาดว่าสรุปแนวทางในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอการประชุมครั้งต่อไป ตั้งเป้าหมายก่อนปีใหม่

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารฯ ชุดใหม่ พิจารณาตั้งโครงการโฆษกอาสาประชารัฐ หวังพัฒนาแกนนำชุมชนจากทุกตำบล ทั่วประเทศ 8,000 คนทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่ประสานทำความเข้าใจระหว่างสมาชิกกับกองทุน และระหว่างประชาชนในหมู่บ้านกับชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สื่อสาร” การทำงานและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐไปถึงประชาชน และสะท้อนความต้องการของประชาชนกลับมาที่รัฐได้อย่างถูกต้อง โดยจะได้รับการฝึกอบรมและการฝึกปฏิบัติภาคสนาม ตามหลักสูตรที่ สทบ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้เรื่องการผลิตข่าว การเขียนข่าว การส่งข่าว โดยใช้สื่อต่างๆ ควบคู่การอบรมเรื่องบทบาทหน้าที่ จรรยาบรรณ และการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนในบทบาทของโฆษกชุมชน. ที่ประชุม กทบ. ยังขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา เพื่อหวังกองทุนเกือบ 79,000 กองทุน และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ กว่า 13 ล้านคนทั่วประเทศ เป็นกำลังสำคัญ ในการร่วมกันปลูกต้นไม้

 

นายนที ขลิบทอง ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า ในวันที่ 25 กรกฎาคมปีหน้า ได้ชักจูงสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 80 ล้านต้นทั่วประเทศ หวังช่วยรักษาสภาพแวดล้อม ป้องกันปัญหาภัยธรรมชาติ และสร้างสินทรัพย์ให้กับหมู่บ้านและชุมชนแล้ว ต้นไม้จะเป็นการออมให้กับสมาชิกกองทุนสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในอนาคต

โดยในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เตรียมเปิดโครงการเพาะชำกล้าไม้ในชื่อ “เปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้” รวมทั้งมีหน่วยงานภาคีร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา ครอบคลุมทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษาและสถาบันการเงิน ได้แก่ กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และ ธ.ก.ส. ในต้นเดือนธันวาคมปีนี้.

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“สมคิด”ยังพอใจจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 2.4