รองนายกฯ สมคิด พอใจจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 2.4. หวังเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจ 1 แสนล้านบาทปลายปี พร้อมชี้แจงการอภิปรายฝ่ายค้าน เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แนะทุกฝ่ายภาครัฐ เอกชนประคองเศรษฐกิจ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณี สศช.แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 2.4 และทั้งปีคาดว่าขยายตัวร้อยละ 2.6 นับเป็นตัวเลขที่ยังพอใจแม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมาก แต่เศรษฐกิจไทยยังทรงตัว และยังมีโอกาสในช่วงปลายปีทุกปี ตัวเลขการส่งออกอาจขยับขึ้นมาบ้าง จึงขอลุ้นไม่ให้การส่งออกลดลงจากปัจจุบัน รวมทั้งการเร่งรัดเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจอีก 1 แสนล้านบาทช่วงปลายปี และยอดการบริโภคในเดือนตุลาคมทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มเริ่มขยับขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากโครงการชิมช้อปใช้ ผลักดันให้ผู้ลงทะเบียนออกไปใช้จ่ายในต่างจังหวัด กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องศึกษามาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะแนวทางส่งเสริมการใช้จ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตัง เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้เงินผ่านออนไลน์ เพราะมาตรการด้านการท่องเที่ยว ต้องส่งเสริมต่อเนื่องเพราะแรง “ไฮอิมแพคได้สูงมาก” จึงต้องหาแรงจูงใจให้คนออกไปใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มเติม เพื่อกระจายไปต่างจังหวัดแต่ไม่ใช่แจกเงินเพื่อท่องเที่ยวเหมือนเดิม
“ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษามาตรการดูแลภาคอสังหาฯเพิ่มเติม หลังจากได้ลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองเหลือร้อยละ 0.01 และ ธอส. ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 เป็นเวลา 3 ปี สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท นับว่าได้รับความสนใจจากผู้ซื้อบ้านจำนวนมาก และอยากขอให้ ธปท.พิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์การซื้อบ้านผ่อนชำระ สำหรับต้องวางเงินดาวน์ร้อยละ 20 นับเป็นอีกสาขาหนึ่งที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวม คาดว่าหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง คงสรุปมาตรการได้ในเร็วๆนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ความเชื่อมั่น” หากพูดกันบ่อยๆ ย้ำกันมากๆ เหมือนกับที่ ม.ร.ว.คึกฤทธ์ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดไว้ จะทำให้สิ่งที่ดีอยู่ พื้นฐานดีอยู่ พลอยดูแย่ส่งผลกระทบในวงกว้างไปด้วย” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้ามาหารือต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง เป็นแหล่งสนใจเข้ามาลงทุนเมื่อเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน เงินทุนยังไหลเข้าต่อเนื่อง เมื่อต่างชาติยังสนใจลงทุน จึงอยากให้เอกชนไทย เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยขยายการลงทุนเพิ่ม ยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวครั้งนี้ แพร่กระจายไปหลายประเทศเศรษฐกิจหลักสำคัญ ทั้งสหภาพยุโรป และจีนยอดการส่งออก 9 เดือนเริ่มติดลบ ดังนั้น การอภิปรายรัฐบาลของฝ่ายค้านครั้งนี้ หากหยิบยกปัญหาเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวมาพูดในสภา สามารถชี้แจงได้ เมื่อเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาการส่งออกถึงร้อยละ 60 ไทยจึงได้ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกไปด้วย และกระทรวงด้านเศรษฐกิจมาจากหลายพรรคการเมืองในรัฐบาลพรรคร่วม
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“สมคิด” ไม่หวั่นปัจจัยเสี่ยง ระบุต่างชาติติดต่อเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง
