“จุรินทร์” อัดงบ 286 ล้าน จัดการโรคใบด่าง จ่ายชดเชยไร่ละ 3 พัน

“จุรินทร์” อัดงบ 286 ล้าน จัดการโรคใบด่าง จ่ายชดเชยไร่ละ 3 พัน


“จุรินทร์”เป็นประธานการประชุม นบมส. เคาะมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในการปราบโรคใบด่าง เตรียมชง ครม. ขออนุมัติงบกลาง 286 ล้านบาท มาใช้ในการทำลาย และจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 3,000 บาท  

 

         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการป้องกันโรคใบด่างที่ระบาดใน 11 จังหวัด โดยจะเสนอของบประมาณจากงบกลางจำนวน 286 ล้านบาท มาใช้ในการทำลายมันสำปะหลังที่ติดโรค ป้องกันไม่ให้มีการระบายของโรคเพิ่มเติม และช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกทำลายผลผลิต โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติงบประมาณต่อไป  

 

         
ทั้งนี้วงเงินดังกล่าว แบ่งเป็นค่าจ้างเหมาในการทำลายมันสำปะหลังในพื้นที่ที่ติดโรคใบด่างไร่ละ 3,000 บาท วงเงิน 136 ล้านบาท และอีก 136 ล้านบาท เป็นวงเงินสำหรับจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 3,000 บาท และอีก 14 ล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการ

 

         
สำหรับประชุมคณะกรรมการการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลังได้มี มติ ดังนี้

1. เรื่องเงื่อนไขเวลา มีมติว่าไม่มีการกำหนดอายุต้นมันสำปะหลังที่พบโรค การแจ้งพบโรคต้องแจ้งจากเดิม 1 ตุลาคม 2562ถึง 30 มิถุนายน 2563 และแปลงมันที่ปลูกต้องขึ้นทะเบียนปลูกมันสำปะหลังปลูกตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 ถึง 30 กันยายน 2562

2.ให้กระทรวงเกษตร ไปพิจารณาและนำเสนอการใช้พรบ.กักพืช เพื่อการควบคุมการระบาด เช่น การประกาศเป็นเขตควบคุมโรค และตามกฎหมายนั้นเจ้าหน้าที่สามารถทำลายมันสำปะหลังที่ปลูกได้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป เป็นต้น และจากมตินี้จะดำเนินการของบกลางเพื่อใช้ เนื่องจากหากเกิดโรคแล้วจะเกิดผลกระทบต่อเกษตรกรมากและจะมีผลกระทบต่อมันสำปะหลังในภาพรวมของประเทศและสุดท้ายจะกระทบต่อปริมาณการใช้ในประเทศและการส่งออกต่อไป

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ แจ้งว่า ในพื้นที่ 11 จังหวัด ที่มีการระบาดของโรคใบด่าง มีพื้นที่ประมาณ 45,400 ไร่ คิดเป็น 1% ของพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศที่มีปริมาณ 5 ล้านไร่

 

 

นายจุรินทร์ ยังได้ตอบคำถาม เกี่ยวกับโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยกล่าวว่า ได้สั่งการให้ไปหารือ 3 ฝ่าย คือภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคเกษตรกร ก่อนเข้าที่ประชุมนี้ สำหรับโครงการประกันรายได้หลังจากที่ได้ดำเนินการในภาคปฏิบัติเกี่ยวกับประกันปาล์ม ประกันข้าว หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของยางพารา และในเรื่องของโครงการประกันมันสำปะหลังนั้นจะตามมาหลังจากนั้น