กรมการค้าต่างประเทศ จับมือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนาครั้งใหญ่ให้ความรู้ และเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ SMEs เตรียมพร้อมรับมือ “มหากาพย์สงครามการค้า…เมื่อพญาอินทรีไล่ขยี้พญามังกร” กับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ บูรณาการร่วมกันในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลด้านการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยมีกำหนดจัดสัมมนาเรื่อง “มหากาพย์สงครามการค้า…เมื่อพญาอินทรีไล่ขยี้พญามังกร” ในวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562 ณ เมย์แฟร์ แกรนด์ บอลลูม โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ของไทยให้มีความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมกับเผยแพร่นโยบายทางการค้า โอกาสและอุปสรรคด้านการค้าการลงทุนตลอดจนวัฒนธรรมการทำธุรกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งภาคการผลิต การค้า และธุรกิจบริการ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกและนำเข้า สมาคมหรือบริษัทตัวแทนผู้นำเข้า-ส่งออก ผู้ประกอบการธุรกิจ Start up และผู้สนใจทั่วไปกว่า 1,000 คน
การสัมมนาในครั้งนี้ จะประกอบด้วยการบรรยายให้ความรู้และเสวนาพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญด้านการค้าการลงทุน อาทิ คุณพิศาล มาณวพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้ช่วยคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายโจ ฮอร์น พัธโนทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยุทธศาสตร์613 จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การลงทุนระหว่างประเทศ (ไทย-จีน) ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) รวมถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
“การทำสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก ผู้ประกอบการจึงต้องมีความพร้อมและสามารถวางแผนรองรับสถานการณ์การค้าของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา” นายอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ภาพรวมทางเศรษฐกิจ ปี 2562 (ม.ค. – เม.ย.) ประเทศจีน ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึงเกือบ 8 แสนล้านบาท เศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตในทิศทางบวก โดย GDP จีนขยายตัวที่ 6.60% สินค้าที่จีนนำเข้าจากไทยส่วนใหญ่เป็น เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น ส่วนสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเกือบ 6 แสนล้านบาท โดยสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยส่วนใหญ่เป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล ยาง อัญมณี สิ่งทอ และอาหารแปรรูป เป็นต้น
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าว สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ http://www.dft.go.th/seminar-dft สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า โทร 02-547-4855 หรือสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ