สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ฉุดส่งออกเดือน มิย.ติดลบ 2.15 %

สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ฉุดส่งออกเดือน มิย.ติดลบ 2.15 %


พาณิชย์ เผย ยอดส่งออกไทยในเดือนมิถุนายน 2562 ยังคงชะลอตัว ขยายตัวลดลงร้อยละ 2.15 เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่อเนื่องกัน จากปัญหาสงครามทางการค้า ที่กระทบต่อการส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ภาพรวมการส่งออกในครึ่งปีแรก ยังติดลบร้อยละ 2.91

 

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า รายงานตัวเลขการส่งออกไทยในเดือนมิถุนายน 2562 มีมูลค่า 21,409 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ร้อยละ 2.15 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ติดลบถึงร้อยละ 6.20 เนื่องจากปัญหาจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ยังเป็นแรงกดดันต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย ที่ปรับตัวลดลงเกือบทุกรายการทั้งคอมพิวเตอร์ส่วนประกอบร้อยละ 15.5 และแผงวงจรไฟฟ้า ติดลบร้อยละ 20.6 ยกเว้น ทองคำ อัญมณีและเครื่องประดับ ที่ขยายตัว และยางพารา ที่กลับมาขยายตัวในเดือนมิถุนายนที่ร้อยละ 11.8

ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตร ยังหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเฉพาะข้าว ที่ติดลบถึงร้อยละ 34.6 ตามความต้องการของตลาดที่ลดลง เนื่องจากจีน เริ่มเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก มีมูลค่ารวม 122,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังติดลบร้อยละ 2.91 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น จากการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. อยากให้ผู้ส่งออกหันมาทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง ธปท. มีหน่วยงานให้คำแนะนำ และได้ออกมาหลายมาตรการ ทั้งโครงการเงินให้เปล่า เพื่อไปทำประกันความเสี่ยง หรือการสนับสนุนให้ใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขาย หรือ การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแบบสัญญาระยะยาว ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการค้าได้

โดยการส่งออกไทยยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศในภูมิภาค และยังมีโอกาสขยายตัวได้ดีในหลายตลาด เนื่องจากภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่ดีในสายตาของต่างชาติ และยังมีโอกาสทดแทนสินค้าจากการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้าของประเทศต่างๆ รวมทั้งในระยะเร่งด่วน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ยังสั่งการให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ หรือ กรอ.พาณิชย์ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคด้านการส่งออก ในการผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวได้มากขึ้น

ทั้งนี้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หากตัวเลขการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทย ยังมีโอกาสที่การส่งออกจะขยายตัวเป็นบวกได้ร้อยละ 1-2 แม้เป้าการส่งออกจะตั้งไว้ที่ร้อยละ 3 แต่หากในไม่มีปัญหาเพิ่มเติม จะการส่งออกขยายตัวเพิ่ม 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังมีโอกาสที่การส่งออกจะได้ตามเป้าหมายอยู่

ส่วนการนำเข้าในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีมูลค่า 18,197 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 9.44 แต่ในเดือนมิถุนายน ไทย ยังเกินดุลการค้า 3,212 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก มูลค่านำเข้ารวม 119,027 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทย ยังได้ดุลการค้า 3,943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ