สหภาพยุโรปสั่งปรับ “Hello Kitty” กีดกันการค้าเสรี ด้าน “Nike” จ่อโดนด้วย เหตุสั่งห้ามจำหน่ายสินค้าของแบรนด์ข้ามพรมแดนระหว่างประเทศภายในยุโรป
คณะกรรมาธิการป้องกันการผูกขาดของสหภาพยุโรป ได้สั่งปรับ บริษัทซานริโอ เจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ตัวการ์ตูนชื่อดัง “Hello Kitty” ถูกปรับเป็นมูลค่า 6.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 214 ล้านบาท เนื่องจาก “ซานริโอ”ได้สั่งห้ามจำหน่ายสินค้าต่างๆ ของ “Hello Kitty” ข้ามพรมแดนระหว่างประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนระเบียบด้านการค้าเสรีภายในตลาดเดียวของสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า บริษัทซานริโอ เจ้าของลิขสิทธิ์จำหน่ายสินค้า “คิตตี้” มากกว่า 50,000 อย่าง ในกว่า 130 ประเทศ โดยมียอดขายได้มากกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ได้จำกัดพื้นที่การขายที่ให้กับผู้รับมอบลิขสิทธิ์ และจะยกเลิกสัญญาหากมีละเมิดขายสินค้า “Hello Kitty” ข้ามประเทศ นั่นจึงเท่ากับว่าสินค้าของ “Hello Kitty” จะไม่สามารถจำหน่ายได้อย่างเสรีในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ทั้งในแบบร้านค้าและออนไลน์
ดังนั้นการกระทำดังกล่าวจึงถูกระบุว่า เป็นการกีดกันทางการค้าเสรี ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง และราคาของสินค้าจะแพงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวของบริษัท ซานริโอ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมานานแล้วกว่า 11 ปี โดยนอกจากผลิตภัณฑ์ของ “คิตตี้” แล้ว คณะกรรมาธิการป้องกันการผูกขาดของสหภาพยุโรปได้สั่งปรับ “ไนกี้” 12.5 ล้านยูโร และกำลังสืบสวน “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ” ในกรณีแบบเดียวกัน