“พาณิชย์” นำผู้ประกอบการไทย 16 ราย ไปเจรจาการค้าในงานแสดงสินค้า Taipei Pets Show 2019 ช่วยเปิดตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงในไต้หวัน มั่นใจขายได้ หลังไต้หวันเข้าสู่สังคมมีบุตรน้อย นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ทำให้มีความต้องการสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น เผยสินค้าที่ใช้นวัตกรรม ดีต่อสุขภาพสัตว์ ออร์แกนิก มีโอกาสสูง
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยได้นำผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพจำนวน 16 ราย ไปเจรจาการค้าในงานแสดงสินค้า Taipei Pets Show 2019 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน เพื่อหาลู่ทางในการขยายตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงของไทย ทั้งบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง ของเล่น ของใช้ แชมพู และอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น เข้าสู่ตลาดไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง
ทั้งนี้ ปัจจุบันสังคมไต้หวัน เป็นสังคมที่มีบุตรน้อย และนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป โดยผลการสำรวจของสภาเกษตรไต้หวัน (Council of Agriculture) พบว่า มีจำนวนสัตว์เลี้ยงแบ่งเป็นสุนัขจำนวน 1.7 ล้านตัวและแมว 7.3 ล้านตัว ทำให้สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง มีการขยายตัวสูงมาก โดยมูลค่าธุรกิจสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงในไต้หวันในปี 2561 ประมาณ 50,000 ล้านเหรียญไต้หวัน และเฉพาะในส่วนของอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าตลาดปีละ 15,000 ล้านเหรียญไต้หวัน
สำหรับภาวะตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงในไต้หวัน พบว่า อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงมีการแข่งขันสูง นิยมอาหารแบบแห้งและแบบเปียกในรูปกระป๋อง มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก และสินค้าไทยเป็นที่นิยมในไต้หวัน แต่ไต้หวันเองสามารถผลิตสินค้าอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงส่งออกได้ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ เวียดนาม ไทย มาเลเซียและจีน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรมฯ มั่นใจว่า ในการพาผู้ประกอบการไปเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ จะช่วยขยายตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงของไทยเข้าสู่ตลาดไต้หวันได้เพิ่มขึ้น เพราะสินค้าไทยมีการใช้นวัตกรรมในการผลิต เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความแตกต่าง สนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้ เช่น อาหารสัตว์ระดับพรีเมียม สินค้าออร์แกนิก grain- free อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีความเสี่ยงในเรื่องภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งไทยสามารถผลิตได้ และมีคุณภาพ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ
การจัดโครงการพัฒนาสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2558-2562) ซึ่งผลการดำเนินการในช่วง 3 ปีแรกของโครงการ มุ่งเจาะตลาดญี่ปุ่นเป็นหลักและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการดำเนินโครงการ ทำให้มีการส่งออกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงไปญี่ปุ่น และยังสามารถเจาะตลาดอื่นๆ ได้ด้วย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นต้น และโครงการในปีที่ 4 มุ่งเจาะตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงในเกาหลี ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นกัน สามารถส่งสินค้าไปยังเกาหลีได้หลายหมวดสินค้า เช่น ของเล่น ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงและในปี 2562 ได้ดำเนินการต่อ และมั่นใจว่าจะขยายตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเข้าสู่ตลาดไต้หวันได้เพิ่มขึ้น